เกณฑ์ทหาร พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “อีกไม่กี่เดือนผมจะปลดประจำการ” พร้อมเผยเรื่องราวของชายหนุ่มที่ติดทหารคนหนึ่ง ดังต่อไปนี้ “ผมจำวันที่ผมไปยื่นเอกสารได้ อาคารหลังนั้นมันเป็นฮอลขนาดใหญ่ ข้างหลังก็เป็นกลุ่มญาติของคนที่มาเกณฑ์ทหารนั่งให้กำลังใจอยู่เพียบเลย พอถึงคิวผมยื่นเอกสารเสมียนที่เขานั่งโต๊ะเค้าบอกผมว่า เค้าช่วยผมได้นะ 40,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านั้นผมลังเลนะว่าจะผ่อนผันออกไปอีกปีไหม แต่พอผมได้ยินเขาพูดแบบนั้น…”
“ผมเลยตัดสินใจจับใบดำใบแดงมันเลย”
“ถ้าเขากล้าแลกศักดิ์ศรี กล้าแลกเกียรติยศความภูมิใจในอาชีพของตัวเองกับเงินจำนวนแค่นี้ได้ขนาดนี้ ขณะที่ญาติพี่น้องคนที่มาเกณฑ์ทหาร ประชาชนนั่งหน้าสลอนกันอยู่เต็มห้อง ผมก็กล้าจับเหมือนกัน!”
“สรุป…วันนั้นก็จับได้ใบแดงครับ”
“ชีวิตประจำวันในนั้น เรื่องที่ดีก็มี เรื่องที่ไม่ดีก็ตามในข่าวเขารายงานไปเป็นแบบนั้นเลย พอเป็นทหารเกณฑ์ ผมมีโอกาสได้เห็นเพื่อนผลัดเดียวกันที่ต้องเสียโอกาสในชีวิต บางคนทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองบ้า เพื่อจะได้ปลดก่อนกำหนด บางคนชีวิตพังไปเลยก็มี เสียเงิน เสียครอบครัว เสียงานเสียการแบบเอากลับคืนมาไม่ได้”
“ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เขาเป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัวเป็นเรี่ยวแรงหลักของบ้าน พอเข้ามาอยู่ในค่าย ด้วยความห่างจากครอบครัว เมียมันก็ทิ้ง ทิ้งไม่พอเอาทรัพย์สินไปขาย เป็นหนี้ให้แม่แก่ๆ ที่อยู่บ้านใช้หนี้ พอจะเอาเงินเดือนทหารไปจ่ายก็ไม่พอ บางคนจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับทหาร เป็นเรื่องของบุคคล ก็ใช่บุคคลมันไม่ดี แต่ถ้าเขาไม่ต้องมาอยู่ในนี้ ใช้ชีวิตปกติ รับผิดชอบกันไปตามสมควร ผมว่ามันก็ไม่น่ามีปัญหาแบบนี้”
“เงินเดือนทหารเกณฑ์มันไม่ได้เยอะนะครับ ผมคำนวณยังไงก็ไม่มีทางถึงหมื่นบาทแบบที่ทหารผู้ใหญ่เขาโฆษณา ได้อยู่ราวๆ 7,800 บาท เบี้ยเลี้ยงได้วันละ 96 บาท แต่ หักค่าอาหารไป 3 มื้อ มื้อละ 20 บาท เงินเหลือจริงๆ 36 บาท ถ้าฝึกเสร็จแล้ว ออกมาอยู่นอกค่ายก็จะได้เบี้ยเลี้ยงเต็มๆ 96 บาท แต่ว่า ผมถามนะ เงินวันละ 96 บาท อยู่กันได้จริงๆ เหรอ”
“บางคนก่อนมาเป็นทหารเกณฑ์ เขาเคยทำงานประจำได้เงินเดือนหมื่นห้า ก็กลายเป็นว่าต้องมามีรายได้เหลือเท่านี้ ต่อให้ไม่ใช่เรื่องเงิน ชีวิต 1-2 ปีในค่ายทหารก็ทำให้เราเสียโอกาสอยู่ดี อย่างผม เสียสิทธิการสมัครสอบ ก.พ. ไป เพราะในใบประกาศมันกำหนดว่า ต้องผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว ซึ่งกว่าผมจะปลด รอสอบรอบใหม่ ช่วง gap year ตรงนี้ ผมก็เสียโอกาสไปเท่าไหร่แล้ว”
“ผมก็รู้สึกบางครั้งว่าการเป็นทหารมันเป็นเหมือนเครื่องจักรเครื่องยนต์อะไรซักอย่าง เวลาผมจะขอเติมข้าวต้องพูดว่า ‘ขอเติมอะไหล่’ คือ ผมเป็นคนไม่ใช่เครื่องยนต์ ข้าวก็คือข้าว ไม่ใช่อะไหล่ เวลากิน ก็ต้องตั้งฉากกินเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ศัพท์ทหารบางทีก็ทำให้เผลอคิดว่าเราไม่มีเลือดเนื้อ”
“เช่น เวลาถูกส่งไปทำงานหน่วยต่างๆ เขาจะใช้คำว่า ‘จำหน่าย’ จำหน่ายพลทหารไปบำรุงสถานที่อะไรก็ว่าไป”
“เวลาฝึก พวกครูฝึกเขาจะชอบเรียกเราด้วยเอกลักษณ์ประจำตัวเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ บางคนขาไม่ดีเขาก็จะเรียกว่า ไอ่เป๋ บางคนใส่แว่น เขาก็จะเรียกว่า ไอ่แว่น อย่างผมอ้วน เขาก็จะเรียกว่าไอ่อ้วน ถ้าถามผมมันก็คือการรื้อตัวตนของเราออกไปให้ได้มากที่สุด”
“ไอ่อ้วน เอ็งจบจากไหนมาวะ?”
“ธรรมศาสตร์ครับ”
“โอ้โห ธรรมศาสตร์ เอ็งรู้จักปิยบุตรเปล่าวะ?”
“รู้จักครับ เคยเรียนกับอาจารย์ด้วยซ้ำ”
“เอ็งเป็นสายสืบเปล่าวะ?”
“วันที่ผมจับได้ใบแดง ผมกับแม่ยืนร้องไห้ปลอบกันอยู่พักใหญ่ๆ ความรู้สึกมันผสมปนกันไปหมด แต่ความรู้สึกที่ชัดมากๆ คือ ทำไมต้องให้พ่อกับแม่ดูแลเราเพิ่มไปอีกเป็นปีๆ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมก็พร้อมที่จะเริ่มต้นดูแลคนที่บ้านได้แล้ว ผมเรียนจบแล้ว ผมควรจะได้ใช้ชีวิต ได้ทำงาน ได้หาเงินเพื่อครอบครัว ช่วยที่บ้านส่งน้องเรียนต่อ แต่มันไม่ใช่แบบที่คิดเลย”
ขอเชิญทุกคนมาร่วมสนับสนุนร่างกฎหมาย #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครแข่งขัน เพิ่มสวัสดิการให้สมเกียรติ ก้าวแรกการปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย อันเป็นนโยบายพรรค #ก้าวไกล ที่สานต่อภารกิจอนาคตใหม่