ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำมาตรการ New Normal มาใช้อย่างเข้มงวด สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น จากการคลายล็อกดาวน์จากรัฐบาล
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 63 นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินลดลงไปอย่างมาก เนื่องจากสายการบินต่างๆ ต้องมีการยกเลิกและปรับลดเที่ยวบิน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังคงมีการให้บริการเที่ยวบินเส้นทางภายในประเทศ โดย สายการบินไทยเวียดเจ็ทแอร์ ที่ยังบินในเส้นทางกระบี่ เชียงใหม่ เชียงราย ทั้งขาเข้า-ขาออก เฉลี่ยวันละ 6 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 530 คน และตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป และ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ะกลับมาให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศใหม่ในเส้นทางกรุงเทพฯ – สมุย ทั้งขาเข้า-ขาออก รวม 4 เที่ยวบินต่อวัน
เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ได้มีการถือปฏิบัติตามมาตรการ New Normal โดยผู้ใช้บริการทุกคนต้องถือปฏิบัติตามวิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่ ประกอบด้วย
- การคัดกรองอย่างเข้มงวด โดย ทสภ. ได้มีการตั้งจุด Terminal Screening เพื่อตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายผู้ที่จะผ่านเข้ามาในอาคารผู้โดยสารทุกคน รวมทั้งกำหนดให้ผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตามที่ประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำหนดไว้ โดยต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในอาคารผู้โดยสาร
- การปฏิบัติตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในทุกพื้นที่ที่ผู้โดยสารใช้บริการ อาทิ ประตูทางเข้า เคาน์เตอร์เช็คอิน ร้านค้า ร้านอาหาร Holdroom เพื่อลดความแออัด
- การให้ความสำคัญใส่ใจดูแลรักษาความสะอาด โดยได้มีการเพิ่มรอบความถี่ในการทำความสะอาดทุกพื้นที่ ทุกจุดต่างๆ ภายในท่าอากาศยาน แบบ Deep Cleaning อย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นการใช้น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อ สูตรของสถาบันบำราศนราดูร เช็ดทำความสะอาดบริเวณพื้นที่จุดสัมผัสต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน ราวบันได เก้าอี้พักคอย ถาดใส่สัมภาระ ถาดใส่รองเท้า รถเข็นกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เคาน์เตอร์ให้บริการสายการบิน เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รวมทั้งมีการจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือให้บริการตามจุดต่างๆ เป็นต้น
เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน กพท. ได้มีการออกประกาศผ่อนปรนให้ผู้โดยสารสามารถนำเจลล้างมือติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ โดยต้องใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุไม่เกิน 350 มิลลิลิตร ต่อชิ้น และรวมกันไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร ซึ่งทุกชิ้นต้องปิดสนิท และต้องมีข้อความระบุปริมาณของบรรจุภัณฑ์ที่ชัดเจนอีกด้วย