ที่ประชุมกทม.เร่ง 437 โรงเรียนทั่วจังหวัด เร่งทำการสอบภายใน 6 มี.ค. สั่งปชช.ห้ามปกปิดข้อมูลเด็ดขาด แจงกักหน้ากากอนามัย 3 หมื่นชิ้น เพื่อบุคลากรทางแพทย์ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ไม่ได้กั๊กไว้ขายแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ที่ห้องประชุมสุทัศน์ 1 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นางจินดารัตน์ ชโยธิน โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่า สำนักแพทย์ สำนักอนามัย และสำนักการศึกษา มีคำสั่งให้เฝ้าระวังดูแลและป้องกันนักเรียนในโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 437 โรงเรียน โดยมีข้อสรุปให้ทุกโรงเรียนในสังกัดสอบปลายภาคเรียนที่2 ให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์ที่ 6 มี.ค.นี้ รวมไปถึงได้เตรียมสั่งการสอดส่องหากพบว่ามีเด็กติดเชื้อโรคโควิด-19 หรือมีกลุ่มเสี่ยงจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป
ทั้งนี้ ยังขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าปกปิดข้อมูล เพราะขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศเป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หากปกปิดจะมีความผิดโดยมีโทษปรับ 20,000 บาท นอกจากนี้ในสำนักงานทั้ง 50 เขตได้จัดทำกิจกรรมทำความสะอาดศาลาที่พักผู้โดยสาร ป้ายรถประจำทาง รถไฟฟ้าตามราวจับอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโรงพยาบาลในสังกัด 11 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง สถานที่ราชการ ศาลาว่าการกทม.1และ2 ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทุกวัน และตั้งจุดคัดกรองเพื่อดูแลประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการ
นอกจากนี้หน้ากากอนามัยที่ก่อนหน้านี้ทางกรุงเทพมหานครได้ทำการสั่งซื้อจากบริษัทเอกชนผู้ผลิตโดยตรงจำนวน 1 ล้านชิ้น เพื่อนำมาแจกให้ประชาชน โดยแจกไปแล้ว 970,000 ชิ้น ขณะนี้เหลือ 30,000 ชิ้น ทางคณะผู้บริหารเห็นควรให้เก็บไว้สำหรับบุคลากรทางแพทย์ที่มีความเสี่ยง รวมทั้งแจกให้กับผู้ป่วยที่มาใช้บริการ ที่ รพ.ในสังกัดและศูนย์บริการสาธารณสุข ยืนยันว่าไม่ได้มีจำหน่ายแต่อย่างใด แต่มีไว้ให้บริการสำหรับผู้ป่วยเท่านั้น
ส่วนหน้ากากอนามัยแบบผ้า กรุงเทพมหานครกำลังเร่งผลิต เพื่อจะนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชน ส่วนการจัดกิจกรรมถนนคนเดินในพื้นที่ต่างๆ ทางกรุงเทพมหานคร เห็นควรว่าขอเลื่อนการจัดงานออกไปก่อน ส่วนงานถนนคนเดินวัดอรุณฯ เมื่อปลายสัปดาห์ได้มีการประกาศออกไปแล้ว และมีคนมาเดินร่วมงานจำนวนมาก แต่กรุงเทพมหานครก็ได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด