โควิด19 การบินไทย ชี้แจงกรณีผู้โดยสารหญิงชาวจีน ไม่พอใจก่อนจะไอใส่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หลังไม่พอใจที่สายการบินลำดังกล่าวใช้เวลาในการจอดเครื่องเพื่อรอตรวจไวรัสโคโรนา หรือ โควิด19 COVID-19 นาน ที่เซี่ยงไฮ้ ที่ประเทศจีนโดยใช้เวลาตรวจนาน7 ชั่วโมง ก่อนที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน จะเข้าระงับเหตุการณ์
เกี่ยวกับประเด็นนี้ เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่มีคลิปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ กรณีผู้โดยสารรายหนึ่งไม่พอใจมากและไอใส่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของการบินไทย เนื่องจากให้รอบนเครื่องบินนานนั้น
ขอชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนเที่ยวบินที่ ทีจี 664 วันที่ 6 มีนาคม 2563 เส้นทางบิน กรุงเทพฯ – เซี่ยงไฮ้ ขณะที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ การบินไทยได้รับแจ้งว่าในวันที่ 6 มีนาคม 2563 เป็นวันแรกที่สนามบินเซี่ยงไฮ้มีมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่มีประวัติการเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงได้แก่ อิตาลี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิหร่าน
โดยเครื่องบินทุกลำที่มีผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว หากเดินทางเข้ามา หรือต่อเครื่องในเซี่ยงไฮ้ จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น โดยเรียงลำดับจากเวลาที่เครื่องบินลงจอดโดยสายการบินที่ยังไม่ได้ตรวจจะไม่อนุญาตให้เปิดประตูเครื่องบินให้ผู้โดยสารลงจากเครื่อง จนกว่าเจ้าหน้าที่จะมาดำเนินการ นอกจากนี้การตรวจคัดกรองในแต่ละลำมีความเข้มข้นขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเที่ยวบินของการบินไทยจำเป็นต้องรอประมาณ 7 ชั่วโมงกว่าที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงคิวตรวจ
ซึ่งจากการที่ผู้โดยสารต้องรอการตรวจคัดกรองเป็นเวลานาน จึงมีผู้โดยสารรายหนึ่งไม่พอใจอย่างมากและไอใส่หน้าพนักงานต้อนรับฯ หญิง ซึ่งพนักงานต้อนรับฯ ได้ช่วยกันระงับเหตุและพยายามอธิบายให้ผู้โดยสารทราบถึงสถานการณ์ และขอให้อยู่ในความสงบ ซึ่งในเวลาต่อมาผู้โดยสารคนดังกล่าวก็อยู่ในความสงบลงและยอมนั่งลงกับที่เพื่อรอการตรวจคัดกรองต่อไป