ขุดคลองไทย ผู้สื่อข่าวรายว่า การประชุมสภาล่าสุดที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ให้มีการหยิบยกเอาประเด็น เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทย (Thai Canal) เส้น 9 A กระบี่, ตรัง, พัทลุง, นครศรีธรรมราช, สงขลา
ซึ่งในที่ประชุมสภา มีทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการขุดคลองไทย ไปในทิศทางเดียวกัน โดยมองว่า การขุดคลองไทย จะสร้างผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติหลายด้าน โดยเฉพาะ ด้านเศรษฐกิจ ที่จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้มหาศาล
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดทำเมกกะโปรเจ็กต์เป็นเรื่องยาก สนามบินสุวรรณภูมิต้องไปนอนเฝ้าถึงจะสำเร็จ กรณี คลองไทยก็เช่นเดียวกัน และโลกนี้เหลืออยู่ที่เดียวที่เป็นภูมิรัฐศาสตร์ที่ดีที่สุด ส่วนอื่นของโลกขุดไปหมดแล้ว ไทยจะก้าวสู่ความศิวิไลซ์เพราะเรื่องนี้ ถ้าเทำได้จะเกิดเขตเศรษฐกิจขวานทองใน 5 จังหวัดขึ้น
ขณะที่ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เสนอว่า คลองที่ขุดใหม่ควรตั้งชื่อว่า “จันทร์โอชา คาแนล” ถ้าตั้งได้ก็ยิ่งดีเป็นอย่างยิ่ง
คลองไทย (หรือในอดีตรู้จักกันในนาม คลองกระ หรือ คลองคอคอดกระ) หมายถึง แผนการก่อสร้างคลองขนาดใหญ่ซึ่งตัดผ่านภาคใต้ของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการขนส่งภายในพื้นที่ เพื่อเชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทย
แนวคิดการก่อสร้างคลองสามารถติดตามได้จนถึงปี ค.ศ. 1677 สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ผู้ทรงตรัสถามวิศวกรชาวฝรั่งเศส de Lamar เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างทางน้ำตัดผ่านคอคอดกระ เพื่อเชื่อมต่อสงขลากับมะริด (ปัจจุบันอยู่ในประเทศพม่า) แต่วิทยาการสมัยนั้นยังไม่มีความเจริญก้าวหน้าพอ ในปี ค.ศ. 1793 แนวคิดดังกล่าวถูกรื้อฟื้นโดยพระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งได้เสนอให้มีการก่อสร้างเพื่อป้องกันชายฝั่งด้านตะวันตกจากเรือรบของต่างชาติ
ภายหลังพม่าตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี ค.ศ. 1863 ได้มีการสำรวจพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็พบว่าไม่สามารถก่อสร้างได้ ในปี ค.ศ. 1882 วิศวกรผู้สร้างคลองสุเอซ Ferdinand de Lesseps ได้มาเยี่ยมชมพื้นที่ดังกล่าว แต่ไม่ได้รับพระราชทานอนุญาตจากพระมหากษัตริย์ไทยในการสำรวจเชิงลึก ในปี ค.ศ. 1897 สยามและจักรวรรดิอังกฤษตกลงที่จะไม่มีการก่อสร้างคลองในบริเวณดังกล่าว เพื่อปกป้องการควบคุมการค้าอย่างเบ็ดเสร็จของท่าเรือสิงคโปร์