เจ้าของผับ จ.อุดร โพสต์ตัดพ้อโดน พิษโควิด ไม่มีเจตนาฝ่า พรก.ฉุกเฉิน แค่ตั้งก๊วนกินกับเพื่อน

เจ้าของร้านผับ จ.อุดรฯ โพสต์ตัดพ้อโดน ‘พิษโควิด’ หันมาขายสลัด เหตุบานปลายเพื่อนมาตั้งก๊วนกันในร้าน ยัน ไม่ได้ตั้งใจฝ่า พรก.ฉุกเฉิน จนถูกดำเนินคดี รับเกิดจากความประมาทของตัวเอง

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส.จำนวน 15 นายได้ออกตรวจความเรียบร้อยในพื้นที่ตัวเมืองอุดรธานีแล้วตรวจร้าน salad time เปิดร้านและจำหน่ายสุราอาหารให้ลูกค้านั่งดื่มกินภายในร้าน จึงนำตัวไปดำเนินคดี ฐานปฏิบัติขัดต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ต่อมา เฟสบุ๊คชื่อ “Here Zee” ทราบเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความระบายความในใจ ระบุว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ร้าน ผมขออนุญาตโพสต์เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตัวผมเองนะครับ เพราะน่าจะมีหลายคนเข้าใจว่าผมแอบเปิดร้านตามข่าว

ก่อนอื่นผมต้องขอโทษทุกคนด้วยความจริงใจครับ ผมต้องขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องขึ้น และขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ ทั้งผู้ประกอบการด้วยกันเองและคนอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดครับ ผมขอโทษในความโง่เขลา สะเพร่าและประมาทของตัวผมเอง พอเห็นข่าวแน่นอนผมเองก็ตกใจ ที่เขียนออกมาอย่างนั้นเพราะจริงๆ ที่ร้านได้ประกาศปิดร้านไปตามประกาศของรัฐบาลตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 แล้วซึ่งปิดจริงๆ แต่เหตุที่มีปรากฏเป็นภาพในข่าวเพราะ ทางเจ้าหน้าที่เข้าใจผิดว่าผมเปิดร้านปกติและมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการปกติ

ผมขออนุญาตเท้าความนิดนึงนะครับ เริ่มจากพอมีประกาศให้ปิดร้านและร้านผมต้องปิด ตัวผมและแฟนก็คิดว่าจะหาเงินยังไงมาจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งส่วนตัวและของทางร้าน ทั้งค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ จึงคิดว่าจะใช้สถานที่นี้แหละใช้ครัวของร้านทำสลัดขายกัน ทั้งเทคอะเวย์กลับบ้านและส่ง grab (แฟนผมสมัครเข้า grab ไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้ว) เผื่อจะพอเป็นรายได้มาพอช่วยเหลือเยียวยาตัวเองกันบ้าง เปิดเวลา 10.00 น. – 20.00 น. ทุกวันและได้เริ่มเปิดได้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาหลังจากปิดร้านไปได้ 10 วันพอดี

จนเมื่อวานวันจันทร์ที่ 30 มีนา สลัดเปิดมาได้ครบ 3 วันพอดี ได้มีเพื่อนมาอุดหนุน แล้วก็ค่อยๆ ทยอยตามกันมา ทีละคน 2 คน จากขอนั่งกินคนเดียว และก็มีซื้อกลับบ้าน บานปลายไปจนเริ่มอยากตั้งวงดื่ม ทั้งถือมาเอง และทั้งเหล้าเหลือผมเอง (สังเกตได้ของกลางที่ยึดไปคือแสงแบน มันจะมีหัวม้าเขียน HBD มอบให้ผมครับ มันคือเหล้าเก่านานแล้ว) ไม่มีลูกค้าคนอื่นหรือมีการเปิดขายแอลกอฮอล์ ตามข่าวใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีการดื่มกินจริงครับ

ด้วยความเหงาจากการกักตัวและความคิดถึงกัน ก็เลยมีแต่คนลีลาไม่กลับสักที แต่ขอออกตัวว่าทุกคนเว้นนะยะห่างกันพอสมควรนะครับ และมีเจลล้างมือและวัดไข้กันอย่างดี แต่ผมก็ประมาทไปมากจริงครับ ผมขอน้อมรับผิดในเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว เพราะเป็นพื้นที่รับผิดชอบของผมเอง คนที่นั่งใกล้ กันในข่าว แต่ละคู่เขาเป็นแฟนกันอยู่บ้านเดียวกันครับ ทุกๆ คนที่อยู่ในร้านคือเพื่อนผมทั้งหมด หลายคนไม่ได้ดื่มเลย ทุกคนมาซื้อสลัดจริงๆ บางคนเพิ่งมาถึงก็มี มาสั่งข้าวเปียกหน้าร้านกินก็มี แต่ก็สั่งเข้ามาที่ร้านเพราะอยากคุยกับเพื่อน เรื่องราวจริงๆ มันเป็นอย่างนี้ครับ

ตอนนี้ผมถูกจับกุมดำเนินคดีและได้ประกันตัวออกมา รอพนักงานสืบสวนสอบสวนทำสำนวนส่งฟ้องอัยการ และขึ้นศาลต่อไปครับ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และคนที่เข้าใจผมนะครับ โควิท มันทำผมสาหัสจริงๆ ครับ ขณะที่คนมาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจในสถานการณ์ที่โควิดกำลังแพร่ระบาดและส่งผลกระทบต่อธุรกิจแทบทุกอย่าง ขอให้มีกำลังใจและสู้ๆ ต่อไป”