หนุ่มโพสต์เฟซแชร์ประสบการณ์ ฝ่าเคอร์ฟิวไปรพ. แต่ไม่มีเตียงพยาบาลให้รอรักษาก่อนตัดสินใจนั่งรถกลับ รักษาโควิดเองที่บ้าน
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวเน็ตได้แชร์เรื่องราวการรักษาตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊คส่วนตัวรายหนึ่งที่ได้ทราบผลว่าตนเองติดโควิดหลังจากที่ตรวจพบเชื้อจากการใช้ชุดตรวจ Antigen test kit โดยหลังจากทราบผล เจ้าตัวได้ตัดสินใจนั่งจักรยานฝ่าเคอร์ฟิวเพื่อไปขอเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้เข้ารับการรักษา จึงได้ตัดสินใจกลับมารักษาตัวที่บ้าน และได้รับความช่วยเหลือจากคนรู้จัก ซึ่งเมื่อเจ้าตัวได้หายจากอาการป่วย จึงได้ออกมาโพสต์ข้อความเล่าประสบการณ์การรักษาตัวเอง โดยระบุข้อความว่า
เมื่อประมาณวันที่ 20 -21 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้เริ่มมีอาการ ปวดหัวตัวร้อน ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัวอาการโดยรวมเหมือนไข้หวัดปกติ ผมก็ทานยาลดไข้ไป ไข้ขึ้น 38.5 องศา ก็ถือว่าสูงเลยทีเดียว เมื่อนอนพักผ่อนเช็ดตัว ไข้อยู่ที่ 37.5 องศา ลดลงมา จนเหลือ 36.5 องศาก็คิดว่าคงปกติแล้ว
แต่ยังมีอาการปวดหัว ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามตัว อยากจะนอนอย่างเดียว ก็นอนพักผ่อนไป สักพักมีอาการเวียนหัว อาเจียนออกมา และ มีการถ่ายเหลวเหมือนท้องเสีย ร่วมด้วยก็เริ่มสงสัยแล้วว่า ไข้ลดแล้วอุณหภูมิ ปกติแต่ทำไมยังมีอาการอยู่ จึงลองตรวจ ด้วยชุดตรวจ แอนติเจน เทสต์ คิต ( Antigen test kit )ได้ผลเป็นบวก ก็เริ่มตั้งสติ พยายามแยกตัวจากคนรอบข้าง แล้วหาวิธีเข้าสู่ระบบการรักษา
โทรติดต่อสายด่วนทุกที่ ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และ เอกชน ผลปรากฏว่าไม่มีที่ไหนที่ติดต่อได้ ก็นอนพักไปจนตกกลางคืน เริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก จึงพยายามที่จะไป โรงพยาบาลใกล้บ้าน แต่เป็นช่วงเคอร์ฟิว ที่ไม่มีแท็กซี่ หรือ รถวิ่งเลย แต่อาการเริ่มแย่ขึ้น จนต้องตัดสินใจใช้จักรยาน ปั่นไปที่โรงพยาบาล
ลองนึกภาพตามนะครับคนนึงปั่นจักรยาน แล้วผมนั่งหน้าจักรยาน โดยที่หายใจไม่สะดวก เดินทางไกลพอสมควรเลยครับ เมื่อไปถึง โรงพยาบาลก็พยายามติดต่อห้องฉุกเฉิน ขอให้ช่วยแต่ผลที่ได้คือ ให้รอก่อน รออยู่ร่วม 3 ชั่วโมง จนนิ้วมือไม่มีสีแล้ว สักเกตุตัวเองคือเริ่มหมดแรงแล้ว ขอให้พยายามช่วย แต่ก็ได้เพียงคำว่า รอก่อน
คนไข้ที่นั่งรถเข็น อยู่ด้วยกันประมาณ 3 เคสทยอยกลับ แต่ผมพยายามที่จะรอเพื่อหวังว่าจะได้รับการรักษา สุดท้ายต้องถอดใจ ในใจคิดว่าหากจะต้องตายก็ขอไปตายที่บ้านก็ได้ จึงตัดสินใจ นั่งจักรยานกลับมาที่บ้านพยายามนอนคว่ำ เพื่อให้หายใจได้บ้าง เป็นเวลาหนึ่งคืน เรียกได้ว่านอนไป ภาวนาไป และพยายามที่จะโทรหาสายด่วน หรือ โรงพยาบาล เพื่อขอเตียง แต่ก็ไม่เป็นผลครับ
พอมีเพื่อนๆ และ ผู้ใหญ่ที่เคารพรัก ติดต่อมาสอบถามอาการและหายาส่งมาให้ ก็กินยาตามอาการนะครับผมวิธีการรักษาตัวเองของผม คือ พยายามมีสติหาความรู้จากยูทูป เรื่องการรักษาตัวเอง ของโควิด 19 ก็ทานข้าวทานยา ปกติ คือ มีฟ้าทะลายโจร 3 แคปซูล ยาแก้ปวดไทลินอล 500 วิตามินซี ยาละลายเสมหะ ยาฆ่าเชื้อเจ็บคอ ทานหลังอาหารเช้ากลางวันเย็น และ ต้มสมุนไพร เครื่องต้มยำ สูดดม เช้า – เย็น
สำคัญมากคือการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ หากเกิดอาการปวดเมื่อย เจ็บกล้ามเนื้อ อย่านวดนะครับ อาจเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้ให้ใช้ยานวดทาบริเวณที่เจ็บเบาๆ ครับ จะช่วยได้มากโดยยาเหล่านี้ได้ความอนุเคราะห์ จากผู้ใหญ่ใจดี และ เพื่อนสนิท ที่ส่งยามาให้อย่างเร่งด่วน ก็ดื่มน้ำอุ่นมากๆ ให้ฉี่บ่อยๆเลยครับ ผักผลไม้ กินได้ปกติ เพราะผมลิ้นรับรส จมูกได้กลิ่น ก็ยังพยายามหาเตียงต่อไป
ผู้ใหญ่ก็ช่วยประสานงาน เพื่อนก็ช่วยหาข้อมูล แต่ก็ไม่เป็นผลครับ รักษาตัวเองทั้งที่อาการแย่ๆ แบบนั้นไป จนวันที่ 22 ได้มีการไปตรวจที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อขอผลแลป ก็ได้ผลเป็น บวก เช่นเคย ครับผม ก็พยายามเข้าโครงการรักษาแบบ home isolation คือรักษาที่บ้าน กรอกข้อมูลไป 3 รอบ แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาเลยสักคน ก็ตัดใจแล้วครับ รักษาตัวเองตามเดิม
อาการก็เริ่มดีขึ้น มีปวดตามตัวบ้าง หายใจได้ดีขึ้น แต่ติดขัดบางช่วงเวลา ก็ทนต่อไป เข้าวันที่ 8 ที่รักษาตัวเอง ก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาถามอาการเบื้องต้น ซึ่งตอนนั้นก็เรียนเค้าไปตามตรงว่า ตอนนี้หายใจได้ดีขึ้นมากแล้ว เนื่องจากเค้าเป็นจิตอาสาจากนครสวรรค์ ที่ร่วมสมทบกับกรุงเทพ เค้าก็แจ้งว่ามีอยู่ 50 คน ในวันนั้น โทรหาผู้ป่วยแล้ว พันกว่าราย โอ้ว
ผมจึงแจ้งเค้าไปว่าผมอาการน่าจะดีขึ้นแล้วครับผม ให้ช่วยเหลือคนป่วยที่ขาดโอกาส เข้าถึงยา และ รอเวลาตายอีกมาก ก็ขอบคุณและให้กำลังใจซึ่งกัน ก็เช่นเคยครับ รักษาตัวเองต่อไป อาการก็ดีขึ้นมาก แทบจะปกติเลยครับมีอาการเหนื่อยง่ายบ้าง ปวดกล้ามเนื้อบ้าง แต่ก็น้อยลง จนเข้าวันที่ 14 ของการรักษาตัวเองที่บ้าน ก็มีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาอีกครั้ง ผมก็แจ้งไปว่าน่าจะปกติแล้วครับเดี๋ยววันนี้จะลองตรวจเอง อีกรอบ เค้าก็ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองดีครับผม การดูแลตัวเองหลังจาก 14 วัน และ จัดทำใบรับรองแพทย์ ให้
พอเย็นของวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งครบกำหนด 14 วัน ผมก็ตรวจเองอีกครั้ง ก็ผลเป็นลบแล้วครับผม อยากจะฝากสำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันนี้ขอให้มีสติให้มากนะครับ อย่าวิตก เพราะถ้าเรายิ่งเครียดอาการจะยิ่งแย่ครับผม หาความรู้จาก ยูทูป การรักษาตัวเอง การดูแลตัวเอง เรื่องยา และ อาหารการกิน ก็จะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ครับผม ขอขอบพระคุณทุกความห่วงใยจากผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ให้กำลังใจเสมอมาครับผม
ข่าวที่น่าสนใจ
กลับมาอีกครั้ง “ไทยร่วมใจ” ประกาศคิว ฉีดวัคซีนใหม่ สำหรับคิวฉีดเดิม 1-8 ก.ค. 64
ชาวเน็ตว่าไง? หลังราชกิจจาฯ ประกาศ ห้ามทาครีมกันแดดบางชนิดลงน้ำทะเล!
นิวยอร์ก เริ่มแล้ว! อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีน เข้าร้านอาหาร ยิม และสถานที่จัดการแสดงต่างๆได้