เปิดใจ! รัฐบาล เผย ไม่ปิดกั้นเอกชนนำเข้า “วัคซีนโควิด” เอกสารครบพิจารณาภายใน 30 วัน ขั้นตอนและการตรวจสอบซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย การนำเข้าวัคซีนเป็นหนึ่งแนวทางการป้องกันเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศไทยเลือกใช้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาต่างมีหลายเสียงที่พูดถึงหลายประเด็นเกี่ยวกับวัคซีน ทั้งเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้ามา หรือความล่าช้าในการจัดสรรวัคซีน เนื่องจากมีการเลื่อนคิวฉีดวัคซีนในหลายโรงพยาบาล และ หลายจุดบริการฉีดวัคซีน ทั้งนี้มีบางเสียงได้พูดถึงการเปิดโอกาสให้ทางเอกชน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลเอกชน หรือ หน่วยงานเอกชนอื่นๆ สามารถเป็นผู้นำเข้าวัคซีน เพื่อเร่งการจัดสรรวัคซีนในประเทศ
ล่าสุด วันที่ 23 สิงหาคม 2564 ทางเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้เผยว่า “รัฐบาลไม่ปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด อย.พร้อมอำนวยความสะดวก เอกสารครบพิจารณาภายใน 30 วัน “
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการนำเข้ายาหรือวัคซีนจากต่างประเทศ ว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีนโควิด 19 สำหรับกรณีเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีนโควิด 19 เช่น โรงพยาบาลเอกชน ต้องมายื่นเป็นผู้รับอนุญาตนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักรก่อน จากนั้นจึงยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด 19 อีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล เนื่องจากผู้รับอนุญาตนำเข้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของวัคซีนที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร
เอกชนรายใดประสงค์จะนำเข้าวัคซีนโควิด 19 สามารถดำเนินการได้ มาขึ้นทะเบียนได้ที่ อย. ทาง อย.ได้ระดมสรรพกำลังและเร่งดำเนินการพิจารณาประเมิน ทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย ประสิทธิผลและการบริหารจัดการความเสี่ยงของวัคซีน หากส่งเอกสารครบถ้วนตามที่กำหนดจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน 30 วัน
ผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพหรือวัคซีนในช่วงที่มีการระบาดของโควิด 19 สามารถรับบริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน OSSC หมายเลข 02 -5907606 และ 02- 1148181,แอพพลิเคชั่นไลน์ : @OSSC_FDA, อีเมล: [email protected]
ที่มา : สำนักงานสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข
สามารถติดตามข่าวสาร และ อัปเดทสถานการ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV