ประธานอาวุโสซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ มหาเศรษฐีไทย อันดับต้นของประเทศไทย ได้มอบหน้ากากอนามัยจำนวน 100,000 ชิ้น ให้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ เดินหน้าผลิตหน้ากากอนามัย
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า วิกฤตโควิด-19 จะผ่านพ้นในไม่ช้า เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกและทุกประเทศมีปัญหาเหมือนกันทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างคิดค้นวัคซีนป้องกันรักษา โดยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจะส่งผลให้การคิดค้นเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้บางประเทศเริ่มใช้วัคซีนทดลองในคนแล้วและจะผลิตในเร็วๆนี้แน่นอน
ด้านการรับมือ ธนินท์ เจียรวนนท์ เปิดเผยว่า ตนเองเจอวิกฤตมาหลายครั้งแล้ว สำหรับวิกฤตเที่ยวนี้มองว่าอยู่ไม่นาน เพราะทุกอย่างไม่ถูกทำลาย ไม่เหมือนวิกฤตคราวก่อน เศรษฐกิจป่วยอยู่แล้ว นักธุรกิจมีปัญหาอยู่แล้ว แต่วันนี้รัฐบาลสะสมเงินตราเกินตัว ซึ่งตรงข้ามกับต้มยำกุ้งที่มีหนี้เกินตัว รัฐบาลมีเงิน 3.8 หมื่นล้าน แต่รัฐบาลมีหนี้ 1 แสนกว่าล้าน แต่วันนี้เรามีหนี้น้อยมาก เรามีเงินสะสมอยู่ตั้ง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เราเป็นหนี้เพียง 41% แต่หลายประเทศทั่วโลกเกิน 100% ต่อ GDP แล้ว
ธนินท์ เจียรวนนท์ กล่าวต่ออีกว่า รัฐบาลต้องทุ่มให้กับธุรกิจที่เสียภาษีอยู่ หรือสร้างงานอยู่ หรือท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากรายได้ที่หายไป ยกตัวอย่างที่รัฐบาลอังกฤษช่วยธุรกิจจ่ายเงินเดือนให้ 80% จึงมองว่าของไทยก็ควรทำ โดยสามารถจ่ายแทนเจ้าของโรงแรมไป 80% แต่ก็มีการตกลงกันถ้าช่วยวันนี้ห้ามไล่คนออก ก็จะทำให้คนก็มีเงินจับจ่าย รัฐบาลก็มีเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม การจ้างงานต่างๆ ก็ไม่เสียหายไป
ด้านการปรับปรุง รัฐบาลต้องเดินหน้าต่อเนื่อง แก้ไขปรับปรุงกฎระเบียบที่ล้าสมัย โดยเปิดทางให้นักลงทุนเข้ามาสนับสนุนแรงงานข้ามชาติที่มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องสงวนอาชีพเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนานาแรงงานที่มีฝีมือในประเทศ เช่น การออกพันธบัตร ระยะเวลา 10ปี 20ปี หรือ 30 ปี ช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจที่รับผลกระทบ ซึ่งหลังจากโลกผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้แล้ว ไทยจะเป็นประเทศที่ฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น และขอให้ภาคเอกชนและธุรกิจต่างๆ เตรียมพร้อมด้านกำลังคน และภาคแรงงานไว้ หากสามารถที่จะช่วยเหลือไม่เลิกจ้างแรงงาน ทำให้ผู้คนยังมีกำลังจับจ่ายภายในประเทศได้จะเป็นเรื่องที่ดี ธนินท์ เจียรวนนท์ กล่าว
ข้อมูล : wearecp