โจรอ้วนผอม ไม่รอดโดนรวบตามระเบียบ นายปรัชญา อายุ 21 ปี และนายชานนท์ อายุ 21ปี ถูกชุดสืบสวน สน.มีนบุรี และชุดสืบสวนตำรวจนครบาล 3 นำหมายศาลอาญามีนบุรีเข้าจับได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในซอยหทัยราษฎร์ พื้นที่เขตมีนบุรี พร้อมของกลางเงินสด 7,750 บาท , อาวุธมีด , บุหรี่ 18 ซอง , รถจักรยานยนต์และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในการก่อเหตุ หลังจากที่ทั้งสองคนร่วมกันชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ซอยสามวา 7 เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อกลางดึกวันที่ 17 เมษายน 2564 ได้เงินสดไป 17,675 บาท และบุหรี่อีก 22 ซองพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยว่า
เบื้องต้นจากการสอบสวนทั้งสองคนให้การรับสารภาพ นายชานนท์ เป็นคนชักชวนให้นายปรัชญาร่วมลงมือก่อเหตุ โดยอ้างว่าต้องการเงินไปใช้จ่าย และจ่ายหนี้ค่าหอพักที่ติดค้างไว้หลายเดือน ส่วนที่เลือกร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เพราะเห็นว่าในเวลานั้นไม่มีคนไปใช้บริการ และรู้จักเส้นทางในละแวกดังกล่าวเป็นอย่างดี ส่วนการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองคนยืนยันว่าไม่พบประวัติคดีอาชญากรรม แต่สอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่า เคยมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกาย ก่อเหตุทะเลาะวิวาทสมัยเรียนหนังสือ ซึ่งจะให้ตรวจสอบว่ายังมีคดีใดที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีอีกหรือไม่
ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ อ้างว่าเป็นปืนบีบีกัน นำทิ้งไปแล้ว ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนขยายผลตรวจสอบตามยึดมาประกอบการดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควรอย่างไรก็ตามชุดสืบสวนเปิดเผยว่าการจับคนร้ายที่ก่อเหตุ หลังรับแจ้งเหตุชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ให้นโยบายสั่งการให้ ติดตั้งกว่า 9,000 ตัวทั่วกรุงเทพฯ
ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถทำให้ชุดสืบสวนตามแกะรอยจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ช่วงสถาน การณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิดแล้วมีข่าวตำรวจติดเชื้อและกักตัวนั้น อยากบอกประชาชนว่า ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ บริหารจัดการกำลังพลได้ดีตำรวจงานป้องกันปราบปรามและงานสืบสวนมีกำลังพลสับเปลี่ยนเพียงพอที่ติดตามคนร้ายที่ก่อคดีรวมถึงปกป้องประชาชนได้อย่างเต็มที่เหมือนเดิม.