กรมการพัฒนาชุมชนผนึกพลัง 7 ภาคี “Kick off โคก หนอง นา โมเดล” น้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ รัชกาลที่ 9 มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้เข้มแข็ง “อธิบดี พช.” ปลื้มความสำเร็จพัฒนาศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ 33 แห่ง สร้างผู้นำต้นแบบ 1,500 คน นำทัพขับเคลื่อนการพัฒนาทั่วประเทศ เสริมแกร่งชุมชนฐานรากพร้อมเผชิญสู้ในทุกวิกฤติ
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการขับเคลื่อนพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล กิจกรรม ฝึกปฏิบัติการเชื่อมโยงเครือข่าย ในพื้นที่ทั้ง 7 ภาคี การบูรณาการการทำงานแบบมีส่วนร่วมในรูปแบบการช่วยเหลือกันและกันผ่านกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน พันเอก ธนาวีร์ วิชาชัย เสนาธิการมณฑลทหารบก ที่ 24 นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ผู้แทน 7 ภาคี และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรม ฝึกปฏิบัติโดยการบูรณาการการทำงานแบบมีส่วนร่วม ในรูปแบบการช่วยเหลือ กันและกันผ่านกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ลงแขกปักดำนา “นาข้าวอินทรีย์ วิถีไทย คนรักษ์แม่โพสพ” เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติ ในรูปแบบ “โคก หนอง นา” ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ตลอดทั้งภาคีเครือข่าย กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดอุดรธานี พัฒนาการจังหวัดในเขตพื้นที่บริการของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน จำนวน 8 จังหวัด เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน เครือข่ายมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กลุ่มองค์กรพัฒนาชุมชน ผู้บริหารสถานศึกษา และองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จำนวน 350 คน ร่วมงาน ในการนี้ ได้จัดให้มีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยเชิญผู้แทนจากภาคีต่างๆ ร่วมเสวนา ประกอบด้วย พระครูปิยลีลาจารย์ วัดป่าบ้านค้อ นายแสวง ศรีธรรมบุตร ประธานศูนย์กสิกรรมธรรมชาตินาเวียง นายปริญญา นาเมืองรักษ์ ประธานเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.รพีพรรณ จันทรสา รองผู้อำนวยการสำนักศิลปและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้รับอนุมัติงบประมาณให้มาดำเนินการในการที่จะเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมเข้าร่วมโครงการแล้วก็ช่วยกันในการที่จะทำพื้นที่ของตนเองให้เป็นแบบลุงแหวง ซึ่งลุงแหวงเป็นต้นแบบที่ดีของการนำพื้นที่มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเอง และชุมชน
ทั้งนี้ กิจกรรมเอามื้อสามัคคี เป็นกิจกรรมหนึ่งตามรอยศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นการบริหาร แบบคนจน โดยเริ่มจากใครมีอะไรก็มาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้เกิดความรักความสามัคคี ในหมู่พี่น้องประชาชนด้วยกัน ซึ่งความสามัคคีนี้เองจะทำให้ประเทศชาติของเราได้หลุดพ้นวิกฤติหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจ วิกฤติภัยพิบัติธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิกฤติความขัดแย้งทางสังคม และวิกฤติโรคระบาดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ขอขอบคุณคณะผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ รวมทั้งพี่น้องเครือข่ายพัฒนาชุมชนที่มาร่วมกิจกรรม ขอให้ท่านได้นำแนวคิดการเอามื้อสามัคคีในครั้งนี้ ไปขยายผลให้พี่น้องประชาชนที่ไม่ได้มาร่วมกิจกรรมได้นำไปปฏิบัติเพื่อให้ประเทศชาติของเรามีความรักความสามัคคี หลุดพ้นวิกฤติทั้ง 4 ด้าน ดังที่กล่าวมาในเบื้องต้น” อธิบดี พช. กล่าว