เปิดใจแม่!! สุบรรณ มหาชนนท์ ไม่เชื่อลูกชายจะค้ายาเสพติด เผยที่ผ่านมาก็มีเงินติดตัวไม่กี่บาท
“… สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ผู้ต้องหาต่างชาติ 2 คนชาวไทย 2 คนของกลางไอซ์ประมาณ 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) มูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท
โดยผู้ต้องหาชาวไทย คือ นายสุบรรณ มหาชนนท์ อายุ 57 ปี นายจ้อย แย่แข็ง อายุ 55 ปี ของกลางยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) จำนวนประมาณ 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม) บรรจุซ่อนอำพรางไปกับลังสินค้าประเภทรองเท้าทั้งหมด 632 กล่องโดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับนายสุบรรณเคยลงเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชี รายชื่อของพรรคเสรีรวมไทย ลำดับที่ 50 มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดลำปาง ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาประกอบธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองในพื้นที่ เชียงใหม่ มีการติดต่อส่งออกสินค้าผ่านชาวจีนอยู่เป็นประจำ
ล่าสุดทีมข่าวไบรท์ทูเดย์ได้ติดตามลงไปตรวจสอบที่บ้านของนายสุบรรณซึ่งอยู่ที่บ้านเลขที่ 71 ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ โดยพบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ยกสูงมีใต้ถุนบ้าน สภาพบ้านก็ทรุดโทรมพอสมควรเนื่องจากสร้างมานานแล้ว
และยังมีการต่อเติมห้องบริเวณหน้าบ้านและใต้ถุนบ้านแต่ยังไม่เสร็จ และมีรถยนต์เก่าสองคันจอดในบ้าน แต่ไม่มีคนอยู่ในบ้าน ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามเพื่อนบ้านจึงทราบว่าบ้านหลังนี้มีผู้อาศัยเพียงคนเดียวคือ นางผัน มหาชนนท์ อายุ 88 ปี แม่ของนายสุบรรณ มหาชนนท์
โดยปกติช่วงกลางวันญาติจะพาไปอยู่ที่บ้านซึ่งเป็นร้านขายของชำในหมู่บ้านเนื่องจากยายผันอายุมาก และอยู่บ้านตามลำพังกลัวจะเหงา ประกอบกับมีเรื่องลูกชายจึงไม่อยากให้ยายผันคิดมาก
นางผัน ซึ่งหูไม่ค่อยได้ยิน เวลาพูดต้องพูดเสียงดังจึงจะสื่อสารกันได้ เล่าว่าเดิมตนเองเป็นคนโคราชแต่ด้วยพื้นที่แห้งแล้ง จึงย้ายมาอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ก่อนจะย้ายมาอยู่อำเภอแม่เมาะรับจากปลูกสวนป่า เมื่อปี 2511 จนถึงปัจจุบัน โดยมีนายสุบรรณเป็นลูกคนเล็กเรียนหนังสือชั้นมัธยมที่ลำปางจากนั้นก็ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เป็นคนที่ไม่อยู่บ้าน ไม่สูบบุหรี่กินเหล้า จะแวะมาหาแม่เดือนละครั้งหรือนานกว่านั้นล่าสุดเพิ่งมาเมื่อเดือนเมษายนช่วงสงกรานต์ก็มาสนุกสนานกันที่บ้านและกลับไป
จนกระทั่งมารับทราบข่าวจากผู้ใหญ่บ้านว่าถูกจับก็ยังไม่เชื่อว่าลูกเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และตอนนี้ก็ติดต่อสุบรรณไม่ได้เลย หากบอกลูกได้จะถามเรื่องความเป็นอยู่และเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ขณะที่ญาติก็ไม่เชื่อว่าสุบรรณจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดเพราะทุกครั้งที่กลับบ้านก็ไม่ค่อยมีเงินติดตัวเลย และบางครั้งแม่ก็ต้องส่งเงินให้ลูกด้วย และยังเป็นหนี้ญาติพี่น้องด้วย
ส่วนนายสุบรรณ ครั้งล่าสุดที่กลับมาบ้านก็บอกที่บ้านว่าลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หากในพื้นที่โซนเหนือได้คะแนนมากพอตนเองก็จะได้เป็น ส.ส.เมื่อได้เป็น ส.ส.ตนเองก็จะได้รับเงินเดือน แม่ญาติพี่น้องก็จะสบายไปด้วย และได้พาทีมงานมาหาเสียงในหมู่บ้าน
ส่วนเรื่องอาชีพนายสุบรรณก็บอกกับญาติพี่น้องว่ามีอาชีพทนายเงินไม่แน่นอนจะได้ก็ต่อเมื่อมีคนจ้างเท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่ทราบเพราะนายสุบรรณไม่ได้อยู่ที่บ้านนานๆจะมาสักครั้ง และรู้เพียงว่ามีภรรยาและลูกอยู่ที่เชียงใหม่เท่านั้น …”
#BrightToday