เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 14 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ น.ส.น้ำหวาน เบญจมาพร อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ Namwan Banjamaporn หลังได้โพสต์ภาพและข้อความว่า
“นักเรียน นักศึกษา นิสัยไม่ได้เหมือนกันทุกคน แค่เกิดมาก็ต่างพ่อต่างแม่กันแล้ว !! #เกิดเหตุอย่ากลัว #ขอแค่กล้าก็จับเหี้..ได้ *คำเตือน!!!! แด่นักเรียนนักศึกษาทุกคนที่ใช้รถประจำทาง อย่ามัวแต่คุยโทรศัพท์หรือเล่นโทรศัพท์จนภัยถึงตัว เหมือนกับเหตุการณ์วันนี้ ไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าจะเกิดขึ้นกับตนเอง เคยเห็นแต่ในคลิปที่แชร์ๆบนเฟส
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่อู่รถประจำทางสายปรับอากาศสาย 104 วิ่งระหว่าง ปากเกร็ด-หมอชิต ถนนติวานนท์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สอบถาม น.ส.ฐิติมา เสือแก้ว อายุ 29 ปี กระเป๋ารถ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทราบว่า น้องผู้หญิงขึ้นมาจากบีทีเอส หมอชิต ผู้ชายคนก่อเกตุขึ้นมาจากรัชโยธิน เหตุการณ์เป็นอย่างไรไม่รู้ แต่น้องนั่งแถวที่สี่จากข้างหลัง ไม่มีผู้โดยสารด้านหลัง พอมาถึงเดอะมอลล์งามวงศ์วานน้องเขาตะโกนว่าพี่คะบนรถมีคนโรคจิต ตนไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นเสื้อน้องที่หน้าอกมีรอยมือ และที่ต้นขามีรอยแดง และที่ข้อมือผู้ชายทีรอยเล็บ คนขับเลยปิดประตูรถและเรียก รปภ.ของห้างมาช่วยเรียกตำรวจ เราก็อยู่ช่วยน้องและถ่ายภาพนิ่งไว้
สำหรับผู้โดยสารอยากให้นั่งด้านหน้าหรือกลางรถ วัยรุ่นชอบนั่งด้านหลัง ด้านหลังไม่ได้ปลอดภัยเสมอไปบางทีกระเป๋าก็ไม่ได้เดินไปข้างหลังบ่อยนัก ทางบริษัทรถประจำทางก็ทีอบรมให้เราคอยดูสิ่งผิดปกติและสังเกตุผู้โดยสารบนรถด้วย
ด้าน น.ส.น้ำหวาน เบจมาพร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนนั่งรถเมลล์กำลังจะกลับบ้าน ระหว่างนั้นตนก็ถือโทรศัพท์อยู่ไม่ได้สนใจอะไร ผู้ชายที่ก่อเหตุขึ้นมาจากเมเจอร์รัชโยธินหรือลาดพร้าวตนไม่แน่ใจ และมานั่งข้างๆตน ตนก็ไม่ได้สนใจ จากนั้นเขาก็เอาข้อศอกมาชนตนหลายครั้ง และมีเอามือมาสะกิด ตนจึงหันไปมอง และก็กลับมาคุยโทรศัพท์ต่อ ชายคนนั้นได้มีการพูดคุยกับตนว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ขอเบอร์โทรศัพท์หน่อย เขาก็ชวนตนไปทานข้าว ตนก็ปฎิเสธ ตนเริ่มโมโหจึงโกหกเขาไปว่าตนมีลูกแล้วเขาก็ขอดูรูป จากนั้นเขาก็เริ่มเอามือมาจับแขนตนเอง ชวนตนไปบ้านเขา จากนั้นเขาก็เริ่มลวนลามที่ตนขา ตนก็ปัดออก ชวนพูดคุยต่างๆนาๆ ตนจึงบอกไปว่าอย่ายุ่งกับตน แต่เขาก็เหมือนชอบยิ้ม ลวนลามมากขึ้น ตนขวนเขาไปจนเลือดออกเขาก็ยิ่งชอบ เขาใช้มือล้วงเขาไปถึงกางเกงและอีกมือจับหน้าอกตน ตนจึงใช้มือจิกหัวและกระชากคอเสื้อเขา ตนร้องให้กระเป๋ารกเมล์ช่วย และแจ้งตำรวจ
ตอนแรกตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่ตนสงสารเขาที่มีลูกเล็ก 2 คน เขาเหมือนคนไม่สบายไม่ยอมพูดอะไร ปิดบังข้อมูลทั้งหมด สุดท้ายตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความให้ตำรวจปรับเขาไป และจ่ายค่าเสียหายมาให้ 10,000 บาท เหตุการณ์แบบนี้เคยได้ยินรุ่นพี่เจอแต่ตนไม่เคยเจอ ตนก็กลัวคราวหน้าจะเล่นโทรศัพท์แล้วจะสังเกตุคนให้มากกว่านี้
เบื้องต้นจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายจักรพงศ์ (สงวนนามสกุลและปิดบังใบหน้า ) อายุ 35 ปี อยู่ที่ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำการเปรียบเทียบปรับ เนื่องจากผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ และได้ปล่อยตัวไป