วิกฤติร้อนภาวะฝุ่นละอองปนเปื้อนสารพิษแพร่กระจายหนาแน่นในแถบกรุงเทพฯ และปริมณฑล ล่าสุดมีคำแนะนำจากอดีตแพทย์ถึงการดูแลตัวเองโดยเฉพาะหนุ่มๆหากสูดดมฝุ่นเข้าไปมากๆเสี่ยงต่ออาการ “จู๋ไม่แข็ง” และอีกหลายโรคตามมา
14 ม.ค. 2562 สถานการณ์ฝุ่งละอองค่าพุ่งเกินมาตรฐานแถบเมืองกรุงยังคงถูกเฝ้าระวัง และจับตามมอง โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ที่อาจก่อให้เกิดระคายเคือง เหนื่อยหอบ หากสะสมจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยโรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด ฯลฯ ควรระวังเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำจากแฟนเพจ นายแพทย์วิทวัส ศิริประชัย อดีตแพทย์ประจำโรงพยาบาลเกาะลันตา อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ หรือ “จ่าพิชิต ขจัดพาลชน” ที่โพสต์ลงบนแฟนเพจ Kapooman เกี่ยวกับฝุ่นละอองที่อาจส่งผลให้ชายหนุ่มมีอาการ “จู๋ไม่แข็ง” ระบุว่า “เรื่องฝุ่นควันอนุภาคขนาดโคตรเล็ก PM 2.5 ที่กำลังลอยฟุ้งทั่วเมืองหลวงในเวลานี้ นอกจากผลต่อปอดแล้ว รู้หรือไม่ว่ามันยังมีผลต่อหลอดเลือด และหัวใจโดยตรงด้วย โดยการสัมผัสสูดดมฝุ่นควัน PM 2.5 เข้าไป จะทำให้ การเสื่อมสภาพของเส้นเลือด เจนเส้นเลือดเปราะแข็งหรือตีบตันเกิดไวขึ้น ซึ่งมีงานวิจัยชัดเจนละ ว่าคนที่สัมผัส PM 2.5 เยอะๆจะเป็นโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมอง สูงกว่าคนที่ไม่ได้สัมผัสเยอะมาก เรื่องกระปู๋นี่ก็เหมือนกัน เพราะการที่กระปู๋จะแข็งตัวได้ มันเกี่ยวข้องกับเส้นเลือด ถ้าเส้นเลือดมีปัญหา เช่น คนที่เป็นเบาหวานเยอะๆคุมไม่อยู่แล้วเส้นเลือดเริ่มเสื่อม ก็จะมีปัญหากระปู๋ไม่แข็งตัวได้ เลยมีนักวิจัยเขาไปวิจัยกันว่า การสัมผัสกับ PM 2.5 เข้าไปมันจะมีผลต่อการแข็งตัวของกระปู๋รึไม่ เบื้องต้นพบว่า การสัมผัสมลภาวะทางอากาศ แบบ PM 2.5 มีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์กับภาวะนกเขาไม่ขัน ตอนนี้นักวิจัยเขากำลังไปวิจัยกันเพิ่มเติมเพื่อหาความสัมพันธ์กันแบบชัดๆอยู่ แต่ยังไงก็เตือนๆกันไว้ รีบแก้ไขปัญหา PM 2.5 ให้ไวๆ ก่อนที่คนกรุงจะนกเขาไม่ขันกันหมดนะแจ๊ะ”