หนุ่มเจ้าของเพจดัง “บอลพาเที่ยว Backpacker Ball” รีวิว กักตัว 14 วัน คือช่วงชีวิตที่ดีที่สุด ขอบคุณทีมแพทย์ไทยและเจ้าหน้าที่ดูแลดี ปลอดภัย
29 พ.ค. 63 โลกออนไลน์แห่แชร์ความประทับใจ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก “บอลพาเที่ยว Backpacker Ball” ได้โพสต์เรื่องราวระบุว่า ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ 14 วันจากนี้คือช่วงชีวิตที่ดีที่สุด….
คิดดูครับคุณ หลังติดแหง็กอยู่ที่เนปาลนานถึง 37 วัน ต้องออกไปขอข้าวเขากินฟรี คิดถึงอาหารไทยใจแทบขาด ตอนนั้นขอแค่ข้าวไข่เจียวร้อนๆ ราดซอสแม็กกี้ก็ถือว่าดีถมเถแล้ว
สุดท้ายได้รับข่าวดี สถานทูตจัดหาเครื่องบินเหมาลำรับกลับบ้าน แม้ค่าตั๋วจะแพงกว่าโปรโมชั่นไปกลับยุโรป โดนไปคนละ 17,500 บาท กาฐมัณฑุ-ดอนเมือง โดย Lion Air เที่ยวบิน VIP มีแค่ 38 คน แต่เราทุกคนก็เต็มใจจ่าย ดีกว่าต้องติดอยู่เนปาลแบบไม่มีกำหนด เปลืองค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นๆ รายวัน
ทว่าทันทีที่เหยียบผืนแผ่นดินไทย เราถูกต้อนรับอย่างกับเป็นผู้แทนสหประชาชาติ ผู้ตกค้าง 38 คน มีเจ้าหน้าที่ยืนเรียงแถวต้อนรับเกือบ 50 ชีวิต คอยกำกับให้พวกเรา Social Distance แล้วแจ้งให้เดินเข้าห้องคัดกรอง วัดไข้ลงทะเบียนแล้วตรวจใบรับรองแพทย์ที่พวกเราเช็คสุขภาพก่อนออกจากประเทศเนปาล จากนั้นก็ต้อนขึ้นรถบัส VIP คันใหญ่ที่นั่งกันแค่คันละ 13 คน เข้มงวด รัดกุม สมที่ไทยได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ
เมื่อถึงที่โรงแรม ณ เฌอ สมุทรปราการ ผมต้องร้องว๊าวอีกครั้ง “อู๊หู ชั้ลจะได้อยู่ที่นี่ครึ่งเดือนเลยรึ” มันเป็นโรงแรมใหม่ประมาณ 4 ดาว (วัดจากความรู้สึกของนักเดินทางกากๆ ที่มักจะนอนเต็นท์ ไม่ก็พักในห้องรวมคืนละร้อยสองร้อยบาท)
แม่คุณเอ้ยย!!! หลังจากผ่านการปฐมนิเทศจากคณะแพทย์ที่แจ้งห้ามออกจากห้องพัก ต้องวัดไข้เช้าเย็นด้วยปรอทในห้องแล้วแจ้งผลทางไลน์กลุ่ม มีการตรวจโควิด 2 ครั้งก่อนจะปล่อยตัว ทุกคนต้องอยู่แต่ในห้อง เจ้าหน้าที่จะนำอาหารวางไว้หน้าห้องวันละ 3 เวลา ฟังดูเหมือนติดคุกใช่มั้ยละคุณ ขาดอิสระภาพ ไปไหนไม่ได้ แม้จะสั่งส้มตำคอหมูย่างมาก็โดนห้ามเพราะเสี่ยงการปนเปื่อนจากภายนอก
แต่เมื่อเข้ามาในห้องเท่านั้นแหละ โอ๊วววว นี่มันคุก VIP ชัดๆ ห้องแอร์ใหม่เอี่ยม อยู่ห้องละ 1คน น้ำดื่ม ถุงขยะ เครื่องอาบน้ำ ผงซักฟอกพร้อมกะละมัง ทีวีจอแบน แถมมีระเบียงให้ออกไปยืนสูดอากาศด้านนอก มิหนำซ้ำ อาหารที่ส่งตรงมาถึงหน้าห้องตามเวลา 07:00 12:00 17:00 เป็นอาหารอย่างดี คาว หวาน นม ผลไม้ครบ 5 หมู่ เกิดมาไม่เคยนั่งๆ นอนๆ แล้วมีคนเอาข้าวมาให้กินครบ 3 มื้อแบบนี้มาก่อน โคตรสบาย จนอยากขอต่อวีซ่าอยู่มันสัก 3 เดือน
แต่เมื่อครบกำหนด ตรวจโควิดไม่พบเชื้อร้าย ทุกคนจึงถูกปล่อยตัวกลับบ้าน ทิ้งไว้แค่ความโหยหาอาลัย ชาตินี้ฉันจะได้กินนอนสบายเยี่ยงพระราชาแบบนี้อีกไหมหนอ….
ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ตกค้างในต่างแดนแล้วได้รับการช่วยเหลือให้กลับประเทศไทยอันเป็นบ้านเกิด ขอขอบคุณทีมแพทย์และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ดูแลพวกเราอย่างดี ให้ทุกคนได้ถูกคัดกรองปลอดภัย 100% ก่อนปล่อยตัวสู่สังคม ไม่มีที่ไหนอบอุ่นและสุขใจเท่าประเทศไทยอีกแล้ว
ป.ล. (คณะเนปาลทั้ง 38 คน ไม่มีใครติดเชื้อครับ และด้วยความรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ได้กินฟรีนอนสบาย แถมยังกลับประเทศไทย ผมจึงบริจาคเงิน 10,000 บาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งที่เขาลำบาก แต่ขอไม่เปิดเผยตอนนี้นะครับ
