แชร์ว่อนอีกแล้ว โรงเรียนบังคับ นักเรียนนั่งตากแดด ท่ามกลางฝุ่น PM 2.5 เด็กเป็นลม ครูด่าซ้ำ พูดจาบูลลี่
18 ธ.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก “ความจริงประเทศไทย” โพสต์รูปภาพนักเรียนนั่งตากแดด ท่ามกลางฝุ่น PM 2.5 เพื่อรอทำพิธีกลางแจ้ง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โรงเรียนชื่อดังย่านนครบาลเพชรบูรณ์
โดยเพจดังกล่าว ระบุว่า โรงเรียนชื่อดังย่านนครบาลเพชรบูรณ์ กลายเป็นดราม่าร้อน หลังบังคับนักเรียนจำนวนนับพันคน นั่งตากแดด-ตากฝุ่น PM 2.5 ทำพิธีกลางแจ้งนานนับชั่วโมง จนเด็กมีอาการหน้ามืด-เป็นลมล้มพับจำนวนมาก ต้องปฐมพยาบาลกันวุ่น สุดพีค ครูไม่ช่วยแถมด่าซ้ำ เจอขุดภาพแฉ ครูนั่งในร่ม ยืนตะโกนใส่ไมค์ดูถูกเด็ก แถมพบพฤติกรรมใช้เกรดเรียนมาข่มขู่บังคับขืนใจให้เข้าร่วมกิจกรรม ชาวเน็ตรุมถล่มเละ
รายงานข่าวจากนักเรียนในโรงเรียนดังกล่าวระบุว่า มีการบังคับนักเรียนนับพันคนตั้งแต่ ม.1-ม.6 มานั่งตากแดดกลางแจ้งในวันที่อากาศร้อนจัด เพื่อทำพิธีรำลึกวันครบรอบโรงเรียน 111 ปี เช่น กิจกรรมแปลอักษร โดยระหว่างจัดกิจกรรมมีเด็กเป็นลม จึงมีการตะโกนบอกว่า “มีคนเป็นลมค่ะ” ครูเห็นแล้วแต่กลับตอบกลับมาเพียงว่า “อ๋อออ เป็นลมเหรอ” ด้วยความเฉยเมย และบางช่วงมีการตะโกนว่า “ไม่มีความอดทน” ทว่าเวลาในการซ้อมพิธีดังกล่าวเป็นช่วงที่ร้อนสุดของวันหรือราว 12.00-14.00 น. และครูมีการคุกคาม-พูดจาบูลลี่นักเรียนหลายครั้ง
นอกจากนี้ยังมีการรายงานว่า แม้จะเป็นการจัดกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานจนมีเพื่อนนักเรียนเป็นลม แต่โรงเรียนกลับไม่เซฟเด็กนักเรียน โดยให้เด็กนักเรียนเซฟกันเอง มีเด็กนักเรียนม.3 ซื้อน้ำมาแบ่งบางส่วน เด็กนักเรียนแบ่งยาดมกันเอง อนาถาจนถึงขั้นนักเรียนต้องเปิดรับบริจาคกันเองเพื่อเป็นทุนไปซื้อน้ำมาแจกเพื่อนพี่น้องนักเรียนที่กำลังจะเป็นลมอีกหลายคนเพราะทนร้อนแทบไม่ไหว
ขณะที่นักเรียนบางส่วนระบุว่าโรงเรียนดังกล่าวมีการจัดกิจกรรมหรือพิธีต่างๆอยู่บ่อยครั้ง บ่อยมากจนไม่มีเวลาเรียนหนังสือ ขณะที่นักเรียนบางส่วนแนะนำให้เอาเวลาจัดกิจกรรมล้าหลังไปเป็นชั่วโมงติวสอบ O-net ให้เด็กๆดีกว่า
นักเรียนบางส่วนยังกล่าวอีกว่า “เราทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรอะ ไม่ไหวแล้วนะ ทำไมต้องเอาเด็กมาทรมานเพื่อภาพลักษณ์ของโรงเรียนด้วย” ขณะที่นักเรียนบางคนระบุว่า มีเด็กจำนวนมากต่อต้านพิธีดังกล่าวโดยการไม่ยอมเข้าร่วมเพราะรู้ว่าจะต้องถูกบังคับให้ทรมาน
ทั้งนี้การนั่งกลางแดดเป็นเวลานานๆเสี่ยงทำให้เกิดอาการ heat stroke และเป็นที่มาของโรคมะเร็งผิวหนัง ตลอดจนเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น หอบหืด ความดัน และโรคหัวใจกำเริบ เป็นต้น โดยเฉพาะในวัยเด็กที่ความทนทานทางกายภาพต่ำกว่าผู้ใหญ่
ขณะที่ภาวะฝุ่นพิษ PM 2.5 นั้นปัจจุบันไทยติดอันดับวิกฤติโลก ภัยฝุ่นทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี จนเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจไทยสูงถึง 6 ล้านล้านบาท ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ขณะที่ทั่วโลกพบยอดผู้ป่วยทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะประเทศอินเดียและแถบอาเซียน สอดคล้องกับทั่วโลกที่พบเด็กเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศและการสูดฝุ่นพิษมากยิ่งขึ้น
