เจอแบบนี้ก็โหดเกิน! ไฟแนนซ์โทรศัพท์ทวงหนี้ ให้ชำระค่างวดที่ตกค้างด้วยน้ำเสียงที่ดุดันเกินกว่าใช้คุยกับลูกค้า จนต้องโทรร้องเรียนแต่เรื่องไม่จบ พนักงานโทรกลับมาซ้ำน้ำเสียงแบบนี้มันข่มขู่ตรงไหน
ในปัจจุบันภาระหนี้สินของคนไทยมีการเพิ่มขึ้นเรื่องๆ เนื่องจากหลักการทำธุระกิจบางอย่างอาจอาศัยการหลักการผ่อนจ่ายมาเป็นข้อเสนอหากผู้ซื้อไม่มีเงินที่เพียงพอต่อการจ่ายในครั้งเดียว ซึ่งนั่นจึงเป็นปัญหาของใครหายคน เพราะบางครั้งในเศรฐกิจแบบนี้อาจทำให้ลูกหนี้บางรายไม่สามารถชำระเงินได้ตรงตามเวลา
โดยส่วนใหญ่ที่พบเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนอกจากหนี้กู้ยืมเงินแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นการทวงหนี้ของบริษัทไฟแนนซ์ ที่หลายครั้งพบเห็นเป็นข่าวเรื่องการทวงโหด บางเคสถึงขั้นตามยึดรถคืนจนกลายเป็นประเด็นให้ถกเถียงในโลกโซเชียลถึงพฤติกรรมการทวงหรือการใช้น้ำเสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร
อย่างกรณีนี้ ผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งโพสต์เหตุการณ์ที่ตนพบเจอ เมื่อพนักงานของบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์แห่งหนึ่งได้มีการโทรศัพต์ติดตามทวงถามหนี้ค่ารถยนต์ที่เจ้าของโพสต์ติดค้าไว้ โดยมีค่างวดอยู่ที่ประมาณ 8,500 บาทต่อเดือน ซึ่งทางเจ้าของคลิปได้ค้าอยู่จำนวน 2 งวด ซึ่งการทวงถามอาจดูเป็นเรื่องปกติแต่สิ่งไม่ปกติคือ “น้ำเสียง”
โดยน้ำเสียงของพนักงานไฟแนนซ์รายดังกล่าวได้โทรศัพท์มาทวงถามในรอบแรกนั้นเป็นเหมือนการตะคอกคุย อีกทั้งยังสัมผัสได้ว่าในน้ำเสียงแบบนี้คาดมีการใช้อารมณ์ที่ฉุนเฉียวเข้ามาร่วมด้วย ทางเจ้าของคลิปจึงได้โทรศัพท์ไปรายงานให้ทางบริษัทรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
แต่เรื่องราวดันไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อมีการรายงานไปเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าทางบริษัทไฟแนนซ์ได้มีการโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลจากพนักงานรายดังกล่าว จึงทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นและได้มีการโทรศัพท์กับมาหาลูกค้าผู้ที่เป็นเจ้าของโพสต์พร้อมต่อว่าและสอบถามเรื่องการข่มขู่ อีกทั้งยังกล่าวอ้างว่าทางลูกค้าไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นความจริงทำให้ตนเสื่อมเสีย พร้อนยืนยันว่า “ไม่ได้ตะคอกแต่เพื่อให้ลูกค้าได้ยินชัดเจนมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ตามกฎหมายการทวงหนี้ฉบับใหม่ระบุว่า การทวงหนี้แบบไหนที่ห้ามทำซึ่งประกอบไปด้วย ห้ามพูดจาดูหมิ่น, ห้ามประจาน, ห้ามข่มขู่, ห้ามใช้ความรุนแรง, ห้ามทำร้ายร่างกาย, ห้ามทำลายทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เกิดความเสียหาย, ห้ามเปิดเผยเรื่องหนี้ของลูกหนี้ ต่อผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง, ห้ามส่งเอกสารเปิดผนึกทางไปรษณีย์ ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการทวงถามหนี้อย่างชัดเจน เป็นต้น