ตำรวจเร่งล่า โชเฟอร์ขับเก๋งป้ายแดงชน-ลากตำรวจไกลเกือบ 2 กิโลเมตร ในจ.นครศรีธรรมราช จนเกิดแฮชแท็ก ที่นี่ท่าศาลา ชี้มีโทษทั้งจำและปรับ
23 เม.ย. 63 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี ตามที่ผู้ใช้โชเชียลมีเดียได้ทำการโพสคลิปผ่านเฟซบุ๊คในลักษณะมีผู้ขับรถเก๋งขับรถชนตำรวจใจเด็ดเกาะฝากระโปรงไกลเกือบ 2 กิโลเมตร ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.ท่าศาลา ภ.จว.นครศรีธรรมราช ว่าเมื่อวันนี้(22 เม.ย. 63) เวลา 11.20 น. ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์แล้วหลบหนีไป บริเวณถนนสาย ท่าศาลา – นบพิตำ สี่แยกกรุงไทย ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
พนักงานสอบสวน จึงได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบ ด.ต.มนตรี นิติชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ท่าศาลา แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ รถจักรยานต์ตราโล่ของทางราชการ โดยแจ้งว่าขณะระหว่างปฎิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรอยู่นั้น ได้จอดรถจักรยานยนต์บริเวณจุดเกิดเหตุ ต่อมาได้มีรถก๋งยี่ห้อมิตชูบิชิ สีเหลือง ทะเบียนป้ายแดง ขับมาจอดแล้วมากระแทกที่บริเวณด้านหลังของรถจักรยานยนต์ ด.ต.มนตรีฯ จึงได้แจ้งให้คนขับรถยนต์เก๋งหยุดรถ แต่คนขับได้ขับรถออกจากที่เกิดเหตุ ด.ต.มนตรีฯ จึงกระโดดขึ้นไปอยู่บริเวณกระโปรงรถด้านหน้าของรถยนต์เก๋ง จากนั้นรถยนต์เก๋งได้ขับออกไปจากที่เกิดเหตุมุ่งหน้าไปทางนครศรีธรรมราช ระยะทางประมาณ 1 กิโลมตร ด.ต.มนตรีฯ จึงได้กระโดดลงจากรถยนต์เก๋งแล้วรถยนต์เก๋งได้ขับหลบหนีไป โดย ด.ต.มนตรีฯ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ขณะนี้ สภ.ท่าศาลา อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบถึงผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคู่กรณีและจะติดตามตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ท่าน ผบ.ตร.มีความห่วงใยในการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ขอให้ยึดหลักในการปฎิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธีตำรวจและระดับการใช้กำลังเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของตัวผู้ปฏิบัติงาน
อีกทั้งขอให้ผู้ขับขี่คู่กรณีมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพราะการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย
พร้อมกันนี้ฝากไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนเมื่อเกิดเหตุการเฉี่ยวชน คู่กรณี่ที่เกี่ยวข้องต้องหยุดรถลงมาให้ความช่วยเหลือคู่กรณีตามสมควรและแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ผู้ขับขี่ ไม่แสดงตัวต่อพนักงานจราจรหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ สถานที่เกิดเหตุ ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้กระทำความผิดโดยอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 78 และ มาตรา 160 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
