แม่ร้อง ทนายรณณรงค์ หวั่นคดีไม่คืบหน้า ลูกสาว ถูก ครูสอนดนตรี บังคับเสพยา-ข่มขืน พบเคยให้นักเรียนทำเสียงคราง
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาครอบครัวของ ด.ญ.จอย (นามสมมุติ) วัย 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร ยื่นเรื่องที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอตรวจสอบสำนวนคดี ถูกครูดนตรีล่อลวงไปข่มขืน โดยออกอุบายให้น้องจอยไปช่วยขนต้นกล้วย และให้น้องจอยนอนหมอบกับพื้นรถตู้ออกจากโรงเรียน ไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งครูคนดังกล่าวยังได้บังคับให้น้องจอยเสพยาบ้าที่ตนเองเสพไว้ก่อนแล้ว และลงมือข่มขืนกระทำชำเรา
นอกจากนี้ ยังมีคลิปเสียงจากนักเรียน ที่ว่าครูนิวมักจะพูดจาลามกอนาจารกับนักเรียนผู้หญิง เช่น ถามถึงใครเคยมีเพศสัมพันธ์บาง มีกี่ครั้ง และมีความรู้สึกอย่างไร และให้เด็กนักเรียนบางคนทำเสียงขณะมีเพศสัมพันธ์ให้ฟัง หรือนักเรียนบางคนถูกยึดโทรศัพท์มือถือ หากอยากได้คืนก็ต้องทำเสียงขณะมีเพศสัมพันธ์ให้ครูนิวฟัง จนนักเรียนต่างหวาดผวากลัวครูนิวกันทุกคน แต่ไม่กล้าบอกใคร
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 63 นางสาววัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) จ.ชุมพร พร้อม นางสาวพวงเพ็ญ ใจกว้าง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชุมพร ได้นำ ด.ญ.จอย ที่ถูกครูนิวข่มขืนกระทำชำเรา เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว เพื่อทำการสอบต่อหน้าสหวิชาชีพแล้ว
ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและส่งสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหา ฐาน พาเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีไปกระทำเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , พรากเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล แต่ไม่ฟ้องข้อหากระทำชำเราและข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด จึงทำให้แม่ของน้อยจอยเกิดข้อสงสัยในสำนวนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางเข้ามาร้องเรียนต่อทนายรณณรงค์