จากความสงสารนำไปสู่ความสงสัย เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊กพลเมืองดีรายหนึ่ง โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพที่ตนนั้นได้ช่วยเหลือสองแม่ลูก บริเวณใต้สะพานสถานีรถไฟฟ้า (BTS)เอกมัย โดยโพสต์ดังกล่าวระบุข้อความว่า
เพราะหนูเลยนะพี่เลยแพ้ ตรงใต้สะพานรถไฟฟ้าbts เอกมัย จะมีสองแม่ลูกนั่งอยู่นี้ทุกวัน สอบถาม คุณแม่ไม่มีบ้านอาศัยพอผมสอบถาม แม่หนูน้องบอกนอนที่วัด(วัดธาตุทอง) แล้วในแต่ละวันได้วันละ 100-200บาท. นั่งได้นานก็ไม่ได้เพราะว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ขายของแม่น้องก็เลยนั่งไม่กี่ชั่วโมง ผมก็เลยชื้อไก่ทอดกับนมแล็วก็ให้เงินนิดหน่อย บัตรประจำตัวประชาชนก็ไม่มีเพราะว่าคุณแม่เป็นคนเวียดนาม แม่น้องบอกว่าไม่ต้องการเงิน ขอแค่นม(นมตราหมีสำหรับเด็กแรกเกิด) กับแพมเพิสก็พอ หนูน้อยชื่อเมย์นะครับ อายุ1ปี2เดือน ฐานะผมก็ไม่มีนะมีก็แค่ฐานะยากจน แต่สถานการณ์แบบนี้ยิ่งอันตรายต่อเด็กอะไรที่พอช่วยได้ก็ช่วยนิดหน่อยก็ยังดี พิกัดbtsเอกมัย
หลังจากที่โพสต์นี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตใจดีที่อยากจะให้ความช่วยเหลือจึงได้ไปยังสถานที่ดังกล่าว แต่ว่าไม่พบสองแม่ลูกแล้ว จึงได้ไปสอบถามกับทางวัดที่สองแม่ลูกใช้อาศัยนอน แต่ทางวัดก็ได้ตอบกลับมาว่าไม่เคยเห็นแม่ลูกคู่นี้ ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเกิดความสงสัยขึ้น
นอกจากนี้ยังได้มีชาวเน็ตบางรายที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเสื้อผ้าของเด็กที่มีลักษณะใหม่ และเป็นของแบรนด์ดัง “ขอโทษที่คิดแง่ร้ายนะคะ แต่น้องดูสะอาดเกินกว่าจะเร่ร่อน ใส่เสื้อ ELLE น้องอาจถูกจับมาหรือเปล่าคะ อยากให้หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ ถ้าเป็นค้ามนุษย์นี่สงสารเด็กเลย” แล้วก็ได้แสดงควาวมคิดเห็นกันไปต่างๆ นาๆ ทั้งฝั่งของคนที่สงสัยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ และฝั่งที่สงสารแม่และเด็ก
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตได้ร้องเรียนให้แจ้งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าไปตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยให้กับแม่และเด็ก “เนื่องจากหลายๆคอมเม้นท์ที่ตามอ่าน รบกวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบหน่อยค่ะ
1.สงสารทั้งแม่และเด็ก (คิดแง่บวก)
2.เนื่องจากน้องผิวพรรณดีหน้าตาดี เกรงว่าจะไม่ใช่แม่ลูกกันจริง กลัวว่าน้องจะถูกขโมยมา (คิดแง่ลบ)”
ล่าสุด ทางศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงาได้แจ้งว่า เด็กคนดังกล่าวไม่ตรงกับรายชื่อเด็กหาย แต่การนำเด็กมาขอทานถือว่ามีความเสี่ยงที่เด็กอาจตกเป็นเหยื่อของขบวนการาค้ามนุษย์หรือถูกบังคบให้มมาขอทาน และในตอนนี้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทำการตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้มีการแชร์ลงงบนโลกออนไลน์แล้ว หากมีความคืบหน้าประการใด จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ทางผู้ใช้เฟซบุ๊กพลเมืองดี ได้มีการอัพเดทในประเด็นดังกล่าวด้วยการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “เพราะหนูเลยนะพี่เลยแพ้ตอนนี้เจ้าหน้ารับไปดูแลต่อแล้วนะครับ เค้าสองคนเป็นแม่ลูกกันครับตามความรู้สึกผม แกยินดีตรวจDNAพี่เค้าเป็นกัมพูชานะครับ ไม่ใช่เวียดนาม
แม่น้องบอกกับผมว่า ไม่อยากกลับประเทศกัมพูชา กลัวถูกจับด้วย กลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะว่าแม่น้องได้มาอยู่นี้ตั้งแต่เด็กมาอยู่กับแม่ แม่ของพี่เค้าเสีย สามีก็แยกทางกันครับ แม่หนูน้อยบอก ที่มาขอทานแบบนี้แกอยากดูแลลูกไปด้วยหาเงินไปด้วย ก่อนหน้านี้แกก็ทำงานครับแต่รายได้ไม่พอในการเลี้ยงดูน้องแก แม่น้องเลยเลือกที่จะทำ เมื่อวานที่ผมสอบถาม แกต้องการแค่แพมเพิสกับนมแค่นี้จริงๆครับกับได้มีงานทำเลี้ยงลูกแกได้แค่นั้นครับ
แต่ตอนนี้เรื่องได้เข้าสู่กฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนี้จะเข้าขบวนการตรวจสอบว่าเป็นแม่ลูกกันจริงใหม? #น้องเค้าติดแม่มากใครอุ้มก็ไม่ได้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะยังไงต่อ ผมกลัวอยู่อย่างเดียว กลัวแกได้กลับประเทศ
ผมช่วยได้แค่นี้ครับ ช่วยในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไงหลังจากนี้ขอฝากทุกคนด้วยนะครับ ผมไม่รับการโอนเงินจากใครนะครับ ฐานะผมไม่มีครับมีแต่ฐานะยากจน อย่ากลัวการสร้างภาพเด้อพี่น้อง”
ข่าวที่น่าสนใจ
ศบค.แถลง พบผู้ติดเชื้อ โควิด19วันนี้ รวม 150 ราย เป็นติดเชื้อในประเทศ 142 ราย
พ่อ-แม่ยังรอ! ศพน้องหลิว ยังอยู่ในสุสาน เร่งค้นหาหวั่นมีพิธีล้างป่าช้า