จากกรณีนายทิพกร ทองขาว พลเมืองดี ที่ได้เจ้าข่วยเหลือเด็กกำลังถูกตา ข่มขืนในป่าออกมาได้ แต่กลับถูกเถ้าแก่ไล่ออกจากงาน กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคมไม่พอใจกับการกระทำของนายจ้าง และเห็นใจนายทิพกร ที่ต้องถูกไล่ออกทั้งที่ทำความดี จนมีคนมากมายยื่นมือให้ความช่วยเหลือ
วันนี้(4พ.ย)รายการปล่อยหมัด ช่องไบรท์ทีวี 20 ได้พูดคุยกับทั้งสองฝ่ายเพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยฝ่ายเถ้าแก่ซึ่งเป็นนายจ้าง กล่าวว่า ภรรยาของตนเองเป็นคนไล่นายทิพกร ออกสาเหตุที่นำรถไปใช้โดยพลการ ซึ่งรถคันที่นายทิพกร นำไปใช้เป็นรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งไม่ใช่รถที่ใช้บรรทุกน้ำ และที่สำคัญของการไล่ออก เพราะว่าตนและภรรยา ต้องใช้รถเพื่อไปขนของที่หอพักให้หลานสาว ที่ จ.สงขลา สุดท้ายก็มาไม่ทันภรรยาจึงโกรธมากเลยไล่เค้าออก
เถ้าแก่ ได้ชี้แจงว่า อยากให้สื่อให้ความเป็นธรรม เพราะข่าวที่ออกไปมันคลาดเคลื่อน เพราะการไล่ออกไม่เกี่ยวกับการทำความดีที่ไปช่วยเหลือเด็กที่กำลังจะถูกข่มขืน แต่การให้สัมภาษณ์ของนายทิพกร เอา 2 เรื่องมาโยงเข้าด้วยกัน ข่าวที่ออกไปทำให้ตนถูกสังคมโจมตี และเป็นจำเลยของสังคมไปโดยปริยายแล้ว
เถ้าแก่กล่าวยอมรับว่า ไม่อยากให้นายทิพกร ออก เพราะว่าเป็นคนทำงานดี ซึ่ง จริงๆ ตนก็คิดที่ออกรถให้ใหม่ และกำลังหาโรงขนน้ำอีกแห่งให้เค้า แต่เมื่อเรื่องกลายเป็นแบบนี้ก็คงจะทำอะไรไม่ได้ และตอนนี้ภรรยา ผมโกรธมาก ถ้าตนช่วยเค้าก็คงจะถูกไล่ออกจากบ้านเหมือนกัน
เถ้าแก่ ยังชี้แจงด้วยว่า ที่ภรรยาโกรธ เพราะว่า ที่ผ่านมาเคยเจอเหตุการณ์ที่ลูกน้องเอารถไปใช้แล้วหายไปเลย และนายทิพกร ซึ่งเพิ่งเข้ามาทำงานได้ 2 เดือนก็เลยหวาดระแวงว่ารถจะหายไปอีก
ขณะที่นายทิพกร ลูกจ้างให้ข้อมูลว่า ตนเคยถูกเถ้าแก่หญิงไล่ออกมาแล้ว 2 ครั้งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่ง 2 ครั้งแรกถูกไล่ออกเพราะไปเสนอให้เอารถขนน้ำไปซ่อม เพราะหลังคารั่ว และกระจกพังมองไม่เห็น ก็เลยจะถูกไล่ออก
และครั้งล่าสุดนี้ที่เอารถไปใช้ ตนก็ได้แจ้งขออนุญาติแล้วว่าขอนำรถไปใช้ ซึ่งเถ้าแก่ก็ไม่บอกว่าจะต้องใช้รถไปทำธุระ ซึ่งการที่ ตนขอนำเอารถไปใช้ก็เพื่อต้องการขับรถไปหาครอบครัวที่ อ.ชะอวด จ. นครศรีธรรมราช เพื่อแจ้งข่าวให้รู้ว่าได้งานทำแล้ว และได้ช่วยเด็กที่กำลังถูกข่มขืน ซึ่งหลังจากที่นำรถกลับมาถึงก็ถูกต่อว่า และเถ้าแก่หญิงก็แจ้งความว่า ตนขโมยรถ
นายทิพกร บอกว่า แม้ว่าตนจะถูกไล่ออก แต่ก็อยากขอบคุณที่ให้งานทำ และให้ที่พัก และขอโทษในความบกพร่องในหน้าที่ แต่ก็อยากให้ซ่อมรถ เพราะลูกจ้างคนต่อไปจะได้ขับรถอย่างปลอดภัย เพราะที่ผ่านมายางรถก็เคยระเบิดมาแล้ว
นายทิพกร ยอมรับว่าหลังจากที่ข่าวออกก็มีคนเสนอให้ความช่วยเหลือ และให้งานทำ แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ อย่างเช่นคุณบุ๋ม ปนัดดา ก็ช่วยเหลือโดยให้เงิน 1 หมื่นบาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัว ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ แต่ผมคิดว่าจะกลับไปเป็นทหารพราน ตามที่ครอบครัวต้องการ
(ชมคลิป)