แมท ภีรนีย์ ยอมรับศึกษาดูใจสงกรานต์ ยันยังไม่เป็นแฟน
ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากเจอกระแสโถมเข้ามาอย่างหนัก ล่าสุดสาวแมท ภีรนีย์ ได้ออกงานอีเว้นท์หนึ่ง และได้เปิดใจเคลียร์ทุกประเด็น…
แมท ภีรนีย์ กล่าวว่า รู้จักสงกรานต์จริงๆ ช่วงหลังที่ไปฟิตเนส ตามที่สงกรานต์บอก ส่วนความสัมพันธ์ ณ.ตอนนี้คือศึกษาดูใจ แต่ยังไม่เป็นแฟนกัน ตนยอมรับว่าให้โอกาสเปิดใจคุยกับหนุ่มสงกรานต์จริง เพราะสงกรานต์ทำให้รู้ว่าเคลียร์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องนอร์เวย์คือแมทไปทำธุระเรื่องคุณย่า และที่ได้พาหนุ่มสงกรานต์เที่ยวนอร์เวย์นั้นเพราะตนคิดว่าหนุ่มสงกรานต์เคลียร์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว จึงรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้เป็นคนเข้าหาสงกรานต์
เรื่องที่เป็นสาเหตุที่ทำให้สงกรานต์หย่ากับแอฟ ทักษอร นั้นสาวแมทตอบว่า เรื่องนี้อยู่ที่วิจารณญานของทุกคน แมทไม่สิทธิ์ที่จะทำให้ใครเชื่อคำพูดตน ส่วนเรื่องแฟนเก่าของสาวแมทนั้นแมทขอเคลียร์เพราะว่าค่อนข้างเป็นห่วงความรู้สึกของพี่แพทคือ “แมทมีปัญหาก่อนจะเจอพี่สงกรานต์ แต่มันไปต่อไม่ได้แล้วจริงๆ เรื่องแฟนเก่าขอพูดว่าไม่มีมือที่สามเป็นเรื่องของเราสองคน เดินมาไกล กลับไปไม่ได้แล้ว”
หากถามว่าทำไมถึงเปิดใจให้สงกรานต์ สาวแมทได้ตอบว่า “ไม่รู้เพราะอะไรมันตอบไม่ได้ แต่มันถูกใจ ไม่ต้องมีเหตุผลอะไร” ส่วนเรื่องอดีตของสงกรานต์ที่คนมองว่าสงกรานต์เป็นไม่ดีสาวแมทไม่ได้สนใจและกล่าวประโยคเด็ดว่า “ถึงเขาจะไม่ดีกับคนอื่น แต่เขาดีกับเรา ทำไมเราจะไม่ดีกับเขา” และเรื่องอนาคตนั้นสาวแม่ไม่ได้มองถึงขั้นแต่งงาน คิดว่าอนาคตจะเป็นยังไงก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง และน้อมรับทุกคำเตือน ขอพิสูจน์สงกรานต์ในตอนนี้ก่อน
เรื่องที่มีชาวเน็ตออกมาเผยว่าเจอทั้งคู่ตามสถานที่ต่างๆ สาวแมทยอมรับแบบแมนๆ ว่าไปด้วยกันจริงไม่ได้ปิดบังอยู้แล้ว แต่เรื่องไปเจอที่บ้านนั้นแมทตอบว่า ยังไม่เคยไปโบนันซ่า แต่เคยแวะไปสวัสดีคุณพ่อ
ทางด้านมิ้นต์ ชาลิดา ที่มีชาวเน็ตโจมตีว่าเป็นแม่ชักแม่สื่อนั้น แมทกล่าวว่า “ต้องขอโทดน้องกับแม่ อยากให้ทุกคนเลิกด่าน้อง เพราะน้องมิ้นต์ไม่เคยพาไปรู้จักสงกรานต์ งานนี้เป็นคราวซวยของมิ้นต์จริงๆ รวมถึงเพื่อนแก๊งค์เฟอร์บี้ก็ไม่มีใครรู้เรื่องที่คุยกับสงกรานต์ มีแต่เพื่อนนอกวงการที่สนิทจริงๆ ถึงจะรู้
หลังจากที่เจอกระแสคอมเมนท์แรงมาก สาวแมทยอมรับว่าเสียใจและร้องไห้ ส่วนเรื่องที่ตอกกลับนั้น เพราะคนที่มาคอมเมนท์ได้มาด่าตนว่าเปนมือที่สาม ตนรู้สึกว่าตัวเองไม่ผิดเลยไม่ยอม
