จับ “เบียร์ลาย ห้วยขวาง” หัวโจกโพสเฟสบุ๊ค ชักชวนแข่งรถในทาง สาธารณะพร้อมทั้งตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสีย รวม 18 ร้าน ยึดท่อไอเสียไม่ได้มาตราฐาน 13 รายการ ตรวจยึดรถ จยย. ต้องสงสัย 80 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 42 คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 38 คัน และควบคุมตัวผู้กระทำผิดได้ 56 ราย
วันนี้ ( 10 พ.ย.) เมื่อเวลา 02.00 น. ที่ บริเวณลานหน้าห้างศูนย์การค้าโชว์ดีซี ถนน จตุรทิศ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร. พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก. 5 บก.จร. พ.ต.อ.กฤตภาส กิตติรัฐกรณ์ ผกก.ฝอ.บก.จร. และ พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ ผกก.สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงผลการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. ตำรวจ บช.ปส. ตำรวจ บช.ทท. ตำรวจ บก.น.1 ตำรวจ บก.สปพ. ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจ บก.จร. ได้สนธิกำลังร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.1 สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ถ่ายทอดสดและโพสเฟสบุ๊คชักชวนให้เด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่มแข่งรถในทางสาธารณะที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ หลายแขนง
พล.ต.ต.เสนิต กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. เป็น หน.ชุดปฏิบัติการรองรับการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ดังกล่าว โดยในวันนี้ (10 พ.ย. )ได้ทำการกวาดล้างจับกุมเกี่ยวกับคดีลักษณะนี้
ด้าน พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวว่ากรณีเมื่อวันที่ 23 ต.ค. เวลาประมาณ 21.30 น.ที่ผ่านมา ได้มีเด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่ม มั่วสุมกันแข่งรถในทางสาธารณะมีจำนวนกว่า 100 คัน ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมากบนถนนราชดำเนิน บริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งได้มีภาพและวีดีโอปรากฏไปตามสื่อต่างๆ ต่อมาชุดปฏิบัติการปราบปรามกวดขันการแข่งรถในทางสาธารณะของ ตร. ร่วมกับ บก.จร. ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาพยานหลักฐานจนทราบว่าหัวโจกที่ถ่ายทอดสดการแข่งขันรถคือ เพจ “สจ.บางซ่อนฯ” โดยมี นายก้องเกียรติ์ กิรติอิสริยะกุล เป็นเจ้าของเพจ และเพจ “แม็ก ดินแดง” โดย นายชัยณรงค์ ถ่ายพงษ์ เป็นเจ้าของเพจ ได้โพสชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวกันตามวัน เวลา ดังกล่าว ซึ่งต่อมาชุดปฏิบัติการจึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลแขวงดุสิต จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี จากนั้นทางตำรวจได้สืบสวนขยายผลจากภาพที่ปรากฎจากกล้องวงจรปิดจนได้พยานหลักฐานซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนที่ออกมาขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะรวมกลุ่มมั่วสุมในคืนวันปิยมหาราช พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและส่งหมายเรียกนำผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทั้ง 19 ราย และวันนี้เดินทางเข้ามอบตัวแล้ว 5 ราย หลังจากนี้จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 9 พ.ย. ตำรวจได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.น.1 ปฏิบัติการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกวดขันและป้องกันการแข่งรถในทางสาธารณะซึ่งมีผลการปฏิบัติ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเพจตามหมายจับจำนวน 1 ราย จากการสืบสวนทราบว่ามีเพจ เฟสบุ๊คชื่อ “เบียร์ลาย ห้วยขวาง” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ย่านถนนราชดำเนิน บริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งโดยในการแข่งขันครั้งนี้มีการรวมตัวกันมากกว่า 100 คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟสบุ๊คซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมากโดยเจ้าของเพจเฟสบุ๊คดังกล่าวคือ นายนภสินธุ์ สุทดิศ อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมายหมายจับที่ 83 เพจที่ 99 ที่มีการถูกปิดไป
พ.ต.อ.นิธิธร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย 18 ร้านและยึดท่อไอเสียไว้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ สมอ. จำนวน 13 รายการ ตลอดจนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติในการตรวจวัดระดับเสียงและการวัดค่ามาตรฐานที่ถูกต้องตามหลักสากล กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานขนส่งทางบก และสำนักงานสรรพสามิต พื้นที่ 3 ร่วมตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (95 เดซิเบล) ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากโดยตรวจรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) จำนวนทั้งหมด 101 คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนดจำนวน 63 คัน จึงได้ออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา 30 วัน รวมทั้งยังสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน 80 คัน แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ 42 คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 38 คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน 17 ราย ผู้ใหญ่ 39 ราย รวมทั้งหมด 56 ราย
“อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ บก.น.1 ให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป” พ.ต.อ.นิธิธร กล่าว