อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคว้าไขควงกระหน่ำแทงผู้ใหญ่ 40 แผล เสียชีวิตคารถ หลังมีปากเสียงปมโฉนดที่ดินและติดหนี้กว่า 9 แสนบาท
วันที่ 6 ก.พ. 2562 เวลา 00.43 น. ร.ต.อ.ณัฐพล นิธพัฒน์โรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นครชัยศรี ได้รับแจ้งว่ามีรถกระบะขับเข้ามาภายในสภ.นครชัยศรี และเดินเข้ามามอบตัวว่าแทงคนตายและคนตายยังอยู่ภายในรถ
จากการสอบสวนนายจรัญ เผือกแตงพันธ์ อายุ 48 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เลขที่65/2 หมู่.2 ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี นครปฐม ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. นายอุทัย คุ้นสกุล ผู้ใหญ่บ้านต.บางระกำ อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้โทรมาหานายจรัญว่าจะขับรถมารับไปคุยธุระเรื่องเงินที่ทางนายจรัญได้นำโฉนดไปจำนองไว้ และไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนายอุทัยได้ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน ผก 5880 กทม. และขับไปจอดริมทางจุดเกิดเหตุ ม.7 บ้านห้วยกรด ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
จากนั้นคุยกันได้สักพักนายอุทัยกับนายจรัญได้มีปากเสียงกันและมีการยื้อยุดฉุดกระชากโฉนดที่ดินที่นายจรัญไปจำนองกับนายยอุทัย ไว้เป็นจำนวนเงิน 450,000 บาท โดยนายจรัญไม่มีการทำสัญญาใดๆ และก่อนหน้านี้ทางนายจรัญได้มีการคืนเงินไปนายอุทัยฯไป 2 ครั้งแล้วครั้งละ 200,000 บาทรวมเป็นเงินที่คืนไปแล้ว 400,000 บาท และนายจรัญยังค้างเงินนายอุทัย ไว้อีก 50,000 บาท แต่นายอุทัยกับบอกว่าตอนนี้ยอดที่ค้างประมาณ 9 แสนกว่าบาท จึงทำให้มีปากเสียงกันและมีการชกต่อยกันภายในรถ และสักพักนายอุทัยนำมีดปอกผลไม้จะแทงเข้าไปที่ตัวนายจรัญ 1 ครั้งและใช้ปากกัดเข้าไปที่แขนซ้าย จากนั้นนายจรัญจึงได้ขวานหาในรถจนไปเจอไขควง 1 ด้ามจึงได้กระหน่ำแทงไม่ยั้งจน นายอุทัยแน่นิ่งไป
นายจรัญ เล่าว่า ใช้เข่าด้านขวากันไม่ให้โดนตัวและชกกันไปมานายอุทัยได้กัดเข้าต้นแขนด้านซ้ายของนายจรัญ ด้วยการป้องกันตัว นายจรัญได้คว้าไขควงกระหน่ำแทงนายอุทัยไม่ยั้ง จนนายอุทัยแน่นิ่งไป และสักพักนายจรัญตั้งสติได้จึงลงรถไปขับรถเองเพื่อที่จะนำนายอุทัยไปโรงพยาบาลห้วยพลู แต่นายจรัญก็ขับรถวนไปมาหลายสิบรอบ และคิดว่าจะฆ่าตัวตายตาม จึงตั้งสติอีกครั้ง วนรถเข้ามาในสภ.นครชัยศรี ลงจากรถเดินเข้าไปแจ้งว่าผมได้แทงคนตาย และศพอยู่ภายในรถ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งแพทย์จากโรงพยาบาลนครชัยศรี พร้อมด้วยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ตรวจสอบชันสูตรเบื้องต้น จากการตรวจสอบพบบาดแผลโดนไขควงแทงตามลำตัวและคอกว่า 30-40 แผล และเบ้าตามีการบวมช้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงส่งผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐมหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง และมอบญาติประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป