รีวิว PREY หนัง PREDATOR ที่ดุเดือดที่สุดในรอบ 35 ปี สนุกจนเสียดายที่ไม่ได้ฉายในโรง!!

รีวิว PREY ภาคต้นของภาพตร์สุดคลาสสิก PREDATOR ย้อนรอยการล่า 300 ปีก่อนภาคแรก สนุกที่สุดในรอบ 35 ปี แม้ได้ได้ฉายโรงแต่คุณภาพคับแก้ว

สะเทือน Disney+ กันเลยทีเดียวสำหรับ PREY หนัง PREDATOR ภาคใหม่ล่าสุดกับคำชื่นชมอย่างท่วมท้นแบบ 10/10 ลบภาพจำหนังเอเลี่ยนบุกโลกนอกสายตาของผู้ชมและยกระดับตัวละคร PREDATOR ไปอีกขั้น ซึ่งหนังเล่าเรื่องของ นารู สาวน้อยอินเดียนแดงเผ่าโคแมนชี ที่อยากพิสูจ์ตนเองกับพี่ชายว่า ผู้หญิงก็สามารถออกล่าได้ โดยในเรื่องนั้นจะเป็นการเล่าย้อนไปปี 1719 ก่อนเกิดเหตุการณ์ภาคแรกราว 300 ปี ที่ยังไม่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยผู้คนมีแต่ขวาน ธนู หอก มากสุดก็ปืนโบราณของพวกล่าอาณานิคมจึงเป็นความสนุกที่ทำให้ผู้ชมลุ้นกันว่า PREDATOR นักล่าจากต่างดาวที่มียานอวกาศและอาวุธล้ำสมัยจะพ่ายแพ้ให้กับ หญิงสาวชนเผ่าธรรมดาได้อย่างไร

ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านๆมา ภาพยนตร์ PREDATOR นั้นไม่ได้เป็นภาพยนตร์ขึ้นหิ้งแต่อย่างใด ยกเว้นภาคแรก ฉบับของ Arnold Schwarzenegger ในปี 1987 หน้าหนังดูเหมือนหนังแอคชั่นสูตรสำเร็จทั่วไป คนและเอเลี่ยนนักล่าไล่ฆ่ากันซึ่งผลสุดท้ายก็จบลงตามสูตรในทุกๆภาค ในสายตาผู้ชมทั่วไปที่ไม่ได้เป็นแฟนเดนตายก็คงจะดูก็ได้ไม่ดูก็ได้

สำหรับ PREY นั้นถือเป็น ภาพยนตร์ Predator เรื่องที่ 5 หากนับแค่ Predator , Predator 2 , Predators ,The Predator ที่มี Alien vs. Predator และ Aliens vs. Predator: Requiem เป็นภาคเสริม แต่ก็มีความเชื่อมโยงกันเล็กน้อย

ซึ่งหากจะบอกว่า PREY คือภาพยนตร์ Predator ภาคที่แฟนๆและผู้ชมรอคอยมาตลอดในรอบ 35 ปี ก็คงจะไม่เวอร์เกิน เพราะเป็นการนำความคลาสสิกของภาคแรกมาปัดฝุ่น อัดแน่นไปด้วยฉากต่อสู้สุดดุเดือดเลือดท่วม การฆ่าแบบสยองไม่มีกั๊ก ไม่มีเบลอ ทั้งยังเป็นการพาผู้ชมเข้าถึงแก่นแท้ของการเป็น ผู้ล่าและผู้ถูกล่าอีกครั้ง การดิ้นรนเอาตัวรอดและพัฒนาการของตัวละคร ที่ถ่ายทอดออกมาอย่างมีที่มาที่ไป ไม่ใช่อยู่ๆก็เก่งเลย ผู้ชมจะได้เห็นว่าคนธรรมดาเอาชนะ เอเลี่ยนนักล่าได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคนี้ที่ตัวหลักเป็นหญิงสาว ผิดจากภาคก่อนที่ตัวหลักเป็นชายกำยำล่ำสัน ไม่เป็นทหารก็ตำรวจ

ในภาคนี้ตะวหนังจะเน้นไปที่การชิงไหวชิงพริบการเป็นนักล่าโดยสัญชาติญาณ พละกำลัง หรือ เพศสภาพ ไม่ใช่คำตอบของชัยชนะ ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าจะต้องเป็นเหยื่อเสมอไป ซึ่งเป็นการล้อกับยุคสมัยที่ผู้หญิงก็สามารถทำอะไรๆได้ ไม่ต้องหวังพึ่งกำลังของผู้ชาย และถือเป็นการเปลี่ยนขนบหนัง Predator ที่ผู้หญิงมักจะเป็นแค่ส่วนประกอบของเรื่อง ไม่ได้มีบาทสำคัญกับเนื้อเรื่อง ( เว้นภาคแยก Alien vs. Predator )

โดยหลังจากการฉายลงสตรีมมิ่ง Disney+ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่าน กระแสตอบรับของผู้ชมนั้นเต็มไปด้วยคำชื่นชม และต่างยกให้เป็นภาพยนตร์ ในแฟรนไชส์ Predator ที่ดีที่สุดในรอบ 35 ปี จนแอบเสียดายเลยว่าดีขนาดนี้หากฉายในโรงคงจะฟันกำไรแบบเหนาะๆ