จะจัดว่าเป็นเทรนด์ก็คงไม่ใช่ ต้องบอกว่าสมัยนี้ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงานหรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุเอง ก็หันมาใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกาย ควบคุมอาหารกันมากยิ่งขึ้น
“แฟนเทรนเนอร์” วันนี้เลยข้อยก 5 ข้อง่ายๆในการเตรียมความพร้อม ก่อนไปออกกำลังกายเพื่อไม่ให้ร่างกายของเราบาดเจ็บมาฝากกันค่ะ เพราะแทนที่เราจะไปออกกำลังกายเพื่อได้สุขภาพที่ดีขึ้น กลับต้องมานั่งรักษาร่างกายของเราแทน ป้องกันไว้มักดีกว่าแก้ไขเสมอ จริงไหมคะ ?
การอบอุ่นร่างกาย (Warm up)
ถือเป็นหนึ่งวิธีที่สามารถป้องกันอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี เพราะระหว่างการอบอุ่นร่างกายเลือดจะถูกส่งไปที่กล้ามเนื้อ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ร่างกายนั่นเองค่ะ
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching)
การยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนและหลังการออกกำลังกายก็มีส่วนช่วยลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะหลังจากการออกกำลังกาย เรายิ่งควรทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อนั่นเอง
การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม
หลาย ๆ ท่านคงลืมให้ความสำคัญในข้อนี้ไป แต่ที่จริงแล้วเราควรให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ในการออกกำลังกายด้วย ไม่ว่าจะเป็นชุดและรองเท้าที่เราใช้ โดยควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของกีฬา และประเภทการใช้เครื่องออกกำลังกาย
การออกกำลังกายให้เหมาะสมตามวัย
อันนี้อาจจะแตกต่างไปซักหน่อย แต่เราควรให้ความสำคัญในทุก ๆ เรื่องจริง ๆ นะคะ เริ่มจาก
ทารก : การเคลื่อนไหวร่างกายส่วนต่าง ๆ เป็นประจำทุกวันช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว
เด็กหัดคลาน : ควรเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเคลื่อนไหวร่างกายแต่ละส่วน 30 นาที และทำกิจกรรมเล่นทั่วไป 60 นาที
เด็กก่อนวัยเรียน : ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง โดยออกกำลังกาย 60 นาที และทำกิจกรรมผ่อนคลายอื่น ๆ เพื่อเคลื่อนไหวร่างกาย 60 นาที
เด็กอายุ 5-18 ปี : ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายอย่างน้อย 60 นาที
ผู้ใหญ่ 19-64 ปี : ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึกกล้ามเนื้อที่มีความหนักปานกลางอย่างน้อยสัปดาห์ละ150 นาที หรือออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึกกล้ามเนื้อที่ทีความหนักระดับเข้มข้นสัปดาห์ละ 75 นาที
ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป : ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึกกล้ามเนื้อที่มีความหนักปานกลางอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที หรือออกกำลังกายแบบแอโรบิกและฝึกกล้ามเนื้อที่ทีความหนักระดับเข้ม สัปดาห์ละ 75 นาที (ควรคำนึงถึงความแข็งแรงและโรคประจำตัว)
การทดสอบสมรรถภาพทางกาย
ขั้นตอนนี้จะทำให้เราทราบถึงระดับความสามารถของตนเองว่าอยู่ในระดับใด เมื่อเทียบเกณฑ์มาตรฐาน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโปรแกรมและการเลือกกิจกรรมในการออกกำลังกายได้ แถมยังเป็นตัวชี้วัดอีกด้านหนึ่งในการคัดเลือกนักกีฬาอีกด้วยนะคะ