เสียงผิดปกติในรถ ที่คุณอาจมองข้ามไป
ในปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่มีรถยนต์ขับกัน บางครั้งแค่การขับขี่อย่างเดียวคงไม่พอ แต่ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับรถอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นเราจะได้หาวิธีซ่อมแซมเบื้องต้นได้ก่อน ดีกว่ารอให้เกิดอันตรายขึ้น หรือเกิดความเสียหายมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น
ซึ่งอาการผิดปกติเบื้องต้นเราสามารถรับรู้ได้จากเสียงที่ออกมาจากรถของคุณเอง เพียงแค่คุณลองสังเกตก็จะรู้ได้ว่าแต่ละเสียงที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่เหมือนกัน
เสียงเอี๊ยดอ๊าด หรือครืด ๆ ตอนเบรก
ถ้าเกิดเสียงดังคล้ายเสียงเอี๊ยดอ๊าด หรือครืด ๆ ขณะเบรก ไม่ว่าจะเบรกแรง หรือเบา อันดับแรกให้ลองเช็กผ้าเบรกก่อน เพราะผ้าเบรกอาจจะหมด นอกจากนี้ควรตรวจเช็กระบบเบรกทั้งหมดในคราวเดียว หากจานเบรกเป็นรอย หรือชิ้นส่วนอื่น ๆ เสียหาย จะได้แก้ไขทีเดียว
เลี้ยวแล้วเกิดเสียดัง
ในขณะที่เรากำลังเลี้ยวรถแล้วเกิดเสียงดังจากล้อรถ ให้ตรวจเช็กดูช่วงล่างทั้งหมด ไล่ไปตั้งแต่แร็คพวงมาลัย ลูกหมาก ปีกนก คันส่งคันชัก บุช ข้อต่อ เพราะมันอาจหมดอายุการใช้งาน หรืออาจเป็นเพราะเสียหายจากการใช้งานก็เป็นได้
เสียงดังตรงซุ้มล้อเมื่อขับผ่านลูกระนาด
หากเกิดเสียงดังตรงบริเวณซุ้มล้อ เมื่อขับผ่านลูกระนาด หรือตกหลุม ให้เช็กที่โช้คอัพก่อนเป็นอันดับแรก เพราะมันอาจไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ หากอาการไม่หนักก็ซ่อมแซม โดยการอัดน้ำมันเข้าไปใหม่ แต่ถ้าอาการไม่ดีแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนโช้คใหม่จะดีที่สุด
เสียงดังกึกกักที่คอพวงมาลัย
กรณีเกิดเสียงบริเวณพวงมาลัยคล้ายกับอะไรหลุด ดังกึกกักอยู่แทบตลอดเวลา อาการนี้อาจเป็นเพราะลูกปืนคอพวงมาลัยแตก เพราะบริเวณคอพวงมาลัยจะมีลูกปืนอยู่ บางครั้งเราอาจจะคิดว่าไม่มีอะไรมาก แค่เสียงดังรบกวนเท่านั้น แต่หากเราปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ อาการจะเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ อาจร้ายแรงถึงขั้นควบคุมพวงมาลัยไม่ได้
เปลี่ยนเกียร์แล้วมีเสียงดัง
ทุกครั้งเวลาเปลี่ยนเกียร์ ไม่ว่าจะเปลี่ยนจากอะไรเป็นอะไร หากเกิดเสียงดังขึ้น ให้ทำการตรวจเช็กน้ำมันเกียร์ก่อน ว่าได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันไปบ้างหรือยัง หรือตรวจดูว่ายังมีน้ำมันเกียร์ในปริมาณที่เพียงพอหรือไม่ เพราะมันอาจจะรั่วซึมและระเหยได้ แต่ถ้าอาการหนักจนไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ สิ่งที่ต้องทำคือ ทำใจ และเตรียมเงินเปลี่ยนเกียร์ยกชุดได้เลย
เสียงสตาร์ทรถยาวผิดปกติ
ปกติแล้วเวลาเราสตาร์ทรถ จะสามารถสตาร์ทแล้วติดได้ทันที แต่ในกรณีนี้ถ้าเกิดมีเสียงลากยาวที่นานกว่าเดิมเกิดขึ้น หรือบางครั้งก็ติด บางครั้งก็ดูเหมือนจะไม่ติด สิ่งแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นแบตเตอรี่ แต่ถ้าเพิ่งเปลี่ยนมา ส่วนต่อไปที่ต้องเช็กก็คือไดสตาร์ท อาจเกิดจากในส่วนนี้ก็เป็นได้
ในการขับรถทุกครั้ง ควรสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เพื่อเป็นการถนอมการใช้งานของรถให้คงอยู่กับเราไปนาน ๆ และที่สำคัญจะได้ไม่ต้องเสียเงินในจำนวนที่มากไปกับการเปลี่ยนอะไหล่บางอย่างที่ไม่จำเป็น
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ต้นปีหน้าเจอกัน “ใบขับขี่ดิจิทัล” ไม่ต้องพกบัตรให้ยุ่งยากอีกต่อไป
สัญญาณไฟจราจร เพื่อคนติดสมาร์ทโฟน
