กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 13 เตือน 6 จังหวัดภาคใต้ ฝนตกหนักต่อเนื่อง “เหนือ-อีสาน” อุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาฯ ขณะที่ ปภ. เตือนภาคใต้รับมือน้ำท่วมฉันพลัน
เมื่อเวลา 05.00 น.ของวันที่ 17 ธ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2561 เรื่อง “ฝนตกหนัก คลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2561)” โดยระบุว่า
1.ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ในบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
สำหรับคลื่นลมมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณทะเลอันดามัน ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ฝั่งอ่าวไทย) ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน
2.อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน
บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป กับมีลมแรง บริเวณเทือกเขาสูงมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-15 องศาเซลเซียส โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง
ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประกอบกับหลายพื้นที่ดินเริ่มชุ่มน้ำ ทำให้มีความอ่อนไหวต่อการเกิดดินถล่ม โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร และทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 17-19 ธันวาคม 2561
โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม ได้แก่ ชุมพร (อำเภอสวี อำเภอท่าแซะ อำเภอหลังสวน อำเภอละแม อำเภอปะทิว อำเภอพะโต๊ะ และอำเภอทุ่งตะโก) สุราษฎร์ธานี (อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอวิภาวดี อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอท่าฉาง อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอเกาะสมุย) และนครศรีธรรมราช (อำเภอสิชล อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา อำเภอขนอม อำเภอนบพิตำ อำเภอลานสกา อำเภอพิปูน และอำเภอพรหมคีรี)
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ตรัง และสตูล
นายชยพล กล่าวว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติ