ราคาน้ำมันดิบร่วงเกือบ 2% กังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ-ชัตดาวน์สหรัฐยืดเยื้อ

ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1.9% ปิดที่ 51.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังตลาดกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ผลเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนยังไม่ชัดเจน ชัตดาวน์ในสหรัฐยืดเยื้อ

เมื่อคืนวันศุกร์ (11 ม.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปิดที่ 51.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 1.9% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 60.48 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 1.2 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 2%

สัญญาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่มีความชักเจน ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐที่ยืดเยื้อ การผลิตน้ำมันที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ รวมทั้งความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน

แต่ในขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบได้ปัจจัยหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบีย และความหวังที่ว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยุติลงในที่สุด

บมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14 ม.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI ปรับลดลงเกือบ 2% เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยจีนปรับลดเป้าหมายอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ลงเหลือ 6.0-6.5% สำหรับปี 2562 ซึ่งลดลงจากเป้าหมายของปีก่อนหน้าที่ 6.5% โดยมีสาเหตุจากการเตรียมรับมือกับการขึ้นภาษีการนำเข้าของสหรัฐฯ และความต้องการใช้ภายในประเทศที่ปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงรัสเซีย โดยรัสเซียได้ปรับลดกำลังการผลิตลงสู่ระดับ 11.38 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยของวันที่ 1-10 ม.ค. 62 และต่ำกว่าระดับการผลิตในเดือน ธ.ค. 61 ที่ 11.45 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดมาอยู่ที่มากกว่า 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ขณะที่ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่  11 ม.ค. 62 ได้ปรับลดลง 4 แท่น ซึ่งเป็นการปรับลดลง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน มาสู่ระดับ 873 แท่น โดยมีสาเหตุจากผู้ผลิตน้ำมันดิบมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนของราคาน้ำมันดิบในปีนี้

บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 49-54 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 57-62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน เพื่อหาข้อสรุปของข้อพิพาทการค้าระหว่างสองประเทศ ได้ส่งสัญญาณดีต่อตลาด ,ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มปรับลดลง และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ที่คาดปรับเพิ่มขึ้นจากอัตราการกลั่นของโรงกลั่นในสหรัฐที่ปรับตัวลดลง สวนทางกับกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ซึ่งกลับมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ หรือ 11.7 ล้านบาร์เรล/วัน

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า