ราคาน้ำมันดิบเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 WTI ปิดที่ 56.46 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล รับข่าวสมาชิกกลุ่มโอเปก บรรลุฉันทามติลดกำลังผลิตน้ำมันในปีหน้า ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐยังพุ่งติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8
คืนวานนี้ (15 พ.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกเป็นวันที่ 2 โดยได้รับแรงหนุนจากกรณีที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ส่งสัญญาณลดการผลิตน้ำมัน แม้ว่าสต๊อกน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8
นายซูฮาอิล บิน โมฮัมเหม็ด ฟาราจ ฟาริส อัล มาสโรอี ประธานกลุ่มโอเปก และนายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปก ระบุว่า สมาชิกโอเปกบรรลุฉันทามติที่จะสนับสนุนให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมัน ในการประชุมที่ออสเตรียวันที่ 6 ธ.ค.นี้ เพื่อสร้างความสมดุลต่อตลาดน้ำมัน
สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า โอเปกและประเทศพันธมิตรกำลังหารือกันในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากถึง 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ในปีหน้า
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.3 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.2 ล้านบาร์เรล และเป็นการเพิ่มขึ้น 8 สัปดาห์ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ 56.46 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 0.4% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 66.62 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.50 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.8%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 65.29 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.98 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.52%
บมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 16 พ.ย. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 หลังจากลดลงต่อเนื่อง 12 วัน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการที่กลุ่มโอเปกมีการพิจารณาเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2562 เพื่อป้องกันอุปทานน้ำมันดิบโลกล้นตลาด ขณะที่รัสเซียไม่ต้องการที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย.2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.3 ล้านบาร์เรล ไปอยู่ที่ระดับ 442 ล้านบาร์เรล และนับเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือน ก.พ.2560
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลคงคลังของสหรัฐ ปรับตัวลดลง 1.4 และ 3.6 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
ทั้งนี้ EIA และกลุ่มโอเปกออกมาเตือนถึงปริมาณอุปทานน้ำมันดิบที่อาจล้นตลาดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 จากอุปทานน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปก และอุปสงค์น้ำมันดิบที่ลดลงจากประเทศจีนและอินเดีย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันจากกการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ประกอบกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐแตะระดับสูงสุดที่ 11.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 54-58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 64-68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ ปริมาณน้ำมันดิบที่จะลดลง หลังโอเปกและรัสเซียได้หารือกันเพื่อลดกำลังผลิตน้ำมันดิบในปี 2562 ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มถูกกดดันจากการเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบโลกที่ลดลง และสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง