มูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ร้องดีเอสไอรับกรณีพิพาทที่ดิน 3,800 ไร่ เป็นคดีพิเศษ และให้ช่วยตรวจสอบการซื้อขายที่ดิน และข้อพิพาทระหว่าง มูลนิธิฯ ทายาทเจ้าของที่ดินเดิม กับเจ้าของที่ดินปัจจุบัน
นายชวาลิน พึ่งบุญ ณ อยุธยา ทนายความมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย พร้อมกรรมการมูลนิธิมหาธรรมมหาธาตุวิทยาลัย นำเอกสารหนังสื่อร้องเรียน มามอบให้กับนายไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ดิน 3,800 ไร่ และให้รับเป็นคดีพิเศษ
เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลจากนางเขมจิรา บัณฑูรนิพิท ทายาทของนายสมพล โกศลานนท์ เจ้าของที่ดินเดิม มาร้อง DSI สอบคู่กรณีอ้างถือสิทธิ์ครอบครอง เนื่องจากที่ดินดังกล่าวทางเจ้าของที่ดินเดิม ได้มีสัญญาซื้อขายกับพระกิตติปัญญาคุณ หรือพระกิตติวุฑโฒ(ภิกขุ) ผู้จัดการมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ (ในขณะนั้น) เป็นเนื้อที่ 81 แปลง จำนวน 3,800 ไร่ เมื่อประมาณปี 2513 เพื่อใช้ในประโยชน์ทางพระพุทธศาสนา แต่ที่ดินกลับตกอยู่ในนามของเครือญาติ และนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว หลังจากพระกิตติวุฑโฒ ได้มรณะภาพ
ขณะที่นางเขมจิรา พร้อมทนายความได้เดินทางมาเพื่อติดตามผลการรับพิจารณาด้วยเช่นกัน โดยเผยว่าก่อนหน้านี้สู้คดีกับเจ้าของที่ดินปัจจุบันเพียงลำพัง โดยทางมูลนิธิไม่ได้เข้ามาช่วย
ทั้งที่มูลนิธิได้ถูกระบุในหนังสือช่อฟ้าของวัดว่ามามีส่วนรู้เห็นการซื้อขายที่ดินดังกล่าว
ด้านทนายชวาลิน กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากมูลนิธิว่าพึ่งได้ทราบเรื่องข้อพิพาทที่ดินเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2560 ที่ผ่านมา แต่ตามคำกล่าวของ นางเขมจิรา ที่อ้างอิงหนังสือช่อฟ้า ที่ระบุว่าทางมูลนิธิเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ทางมูลนิธิตรวจสอบยังไม่พบหลักฐานหรือสิทธิที่ทางมูลนิธิจะเข้าไปเป็นคู่ความได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน จึงต้องขอความอนุเคราะห์จากกรมสอบสวนคดีพิเศษช่วยตรวจสอบการได้ของที่ดิน และหลักฐานต่างๆที่จะบ่งบอกถึงว่าใครเป็นผู้มีสิทธิ์ครอบครองที่แท้จริง