รุมประณามโจ๋เมียนมาทารุณสุนัขสุดโหดเหี้ยมจนตาย ด้านเจ้าของแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังตรวจสอบเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดจนหลักฐานมัดแน่นแต่ผู้ก่อเหตุยังแข็งข้อปฏิเสธ
นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ นายบี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี สัญชาติเมียนมา ทำการทารุณกรรมสุนัขภายในบ้านเลขที่ 684 ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จนเสียชีวิตอย่างโหดร้าย ซึ่ง นายนเรศวร์ นิรัติศัย อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 308 ม.2 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เจ้าของสุนัข ระบุว่า ตนเองซื้อสุนัขพันธ์อิงลิช บูลด็อก มาจำนวน 2 ตัวชื่อเจ้าซูโม่ เพศผู้ และเจ้าโชกุน เพศเมีย ในราคาตัวล่ะ 42,000 บาท และนำไปเลี้ยงไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวจนได้อายุ 1 ปี 6 เดือน โดยมีพ่อและแม่ของตนเองอาศัยดูแลอยู่ที่บ้าน นอกจากนี้ ในบ้านยังได้ว่าจ้างแม่บ้านชาวเมียนมาไว้ทำงาน 1 คน ซึ่งได้นำ นายบี มาอาศัยอยู่ด้วย
ทั้งนี้ เจ้าของสุนัขบอกเพิ่มเติมว่า ในวันเกิดเหตุทุกคนออกไปทำธุระนอกบ้านกันหมดเหลือเพียงแม่บ้านและ นายบี (นามสมมติ) อยู่ที่บ้าน จนกระทั่งช่วงบ่ายได้รับแจ้งจากแม่บ้านทางโทรศัพท์ว่า ลูกสุนัขที่เลี้ยงไว้ชื่อ “เจ้าซูโม่” ตกบ่อปลาจมน้ำตาย แต่ตนเองเอะใจและสงสัยว่า สุนัขไม่น่าจะจมน้ำตายเอง หลังจากนั้นตนเองมาตรวจสอบเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ภายในบ้านก็พบภาพสะเทือนใจ เมื่อเห็น นายบี ใช้เชือกมัด “เจ้าซูโม่” ลากไปมาพร้อมทั้งใช้เชือกฟาดไปที่ลำตัว รวมถึงใช้เท้ากระทืบ-เตะจน “เจ้าซูโม่” ตาย หลังจากนั้นจึงนำร่างเจ้าซูโม่มาวางริมบ่อปลาและใช้น้ำราดจนเปียกและไปตามคนในบ้านมาดูก่อนแจ้งตนเองว่าสุนัขจมน้ำตาย
เมื่อเห็นภาพแล้วตนเองจึงเรียก นายบี มาสอบถามแต่ยังไม่ยอมรับสารภาพ จึงมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมา ร.ต.ท.เด่นวุฒิ จันต๊ะขัติ รอง สวป.สภ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่จึงได้ไปนำตัวนายเน้งทุ้ยมาพร้อมทั้งแสดงภาพเหตุการณ์ทำร้ายสุนัขทำให้จำนนต่อหลักฐาน แต่ก็ยังไม่ยอมปริปากว่าเหตุใดจึงทำร้ายสุนัขจนตาย
ล่าสุด นายนเรศวร์ ไปแจ้งความกับ พ.ต.ต.กัมปนาถ เรือนสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน พร้อมนำแผ่นซีดีบันทึกภาพกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ นำมามอบให้เป็นหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายบี ซึ่งถือบัตรผู้ติดตามแรงงานต่างด้าว พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย และกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
