พระวัดดังอ่างทอง ร้องศูนย์ดำรงธรรม หลังถูกมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนนำไปขึ้นเงินหวยปลอมรวม 5 จังหวัด มูลค่า200,000 บาท
24 พ.ค.60 ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.อ่างทอง ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง พระสำเริง เนตรขยาย อายุ 53 ปี พระลูกวัดกำแพงมณี ต.ห้วยคันแหลน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทองพร้อมรูปถ่ายมิฉฉาชีพที่ก่อเหตุในท้องที่ สภ.หนองบัวลำภู เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือจาก น.ส.ปัญจรัตน์ วัฒนถาวร ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.อ่างทอง นำรูปถ่ายมิจฉาชีพ ที่อ้างเป็นตนเองก่อเหตุ นำสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอมแปลงไปขึ้นรางวัลตามที่ต่าง ๆ หลายจังหวัด เบื้องต้นถูกหมายเรียกจาก สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ในข้อหาปลอมเอกสาร (เมื่อวันที่ 4 พ.ย.59) จาก สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ข้อหาฉ้อโกง(เมื่อวันที่ 29 พ.ย.59 และวันที่ 30 ธ.ค.59) พื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และสุดท้ายที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู รวม 5 ฉบับ เป็นเงินที่มิจฉาชีพนำสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอมไปขึ้นเงินกว่า 200,000 บาท
พระสำเริง กล่าวว่า อาตมาได้ทำบัตรประชาชนเก่าหาย แล้วได้แจ้งความบัตรประชาชนหายที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.57 ต่อมาอาตมาได้มาบวชเป็นพระภิกษุที่วัดกำแพงมณี ต.ห้วยคันแหลน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จนมีหมายเรียกจาก สภ.ต่าง ๆ ให้มารับข้อกล่าวหา ซึ่งอาตมาถึงกับมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมิจฉาชีพได้นำบัตรประชาชนที่เคยแจ้งหายไปขึ้นเงิน โดยนำบัตรประชาชนที่แจ้งหายไว้พร้อมด้วยสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกแก้ไขตัวเลขไปขึ้นเงินตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งอาตมาต้องเดินทางไปตามจังหวัดต่าง ๆ ที่ถูกหมายเรียก โดยตอนนี้อาตมาก็ป่วยจนไม่สามารถเดินทางไกลได้อีก ซ้ำร้ายค่าเดินทางแต่ละครั้งต้องมีค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย จึงต้องมาร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วย
ทางด้านศูนย์ดำรงธรรม จ.อ่างทอง ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง ให้พระสำเริง แจ้งความเอาผิดกับมิฉฉาชีพที่ก่อเหตุในท้องที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ที่แม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลถ่ายไว้ ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ที่ก่อเหตุทั้ง 5 จังหวัด พร้อมจะประสาน สภ.ต่าง ๆ ที่มีคดีของพระสำเริง ว่าจะช่วยเหลือกันอย่างไงต่อไป