กรณีของ นายณัฐปพนวิช วงค์ธนจีรนาถ อายุ 49 ปี หรือ “เสี่ยเล็ก อรดา” นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ถูกคนร้ายชาวเมียนมา ใช้ของมีคมแทงจนเสียชีวิตภายในบ้านพักพื้นที่ ต.โพธิ์พระยา อ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมกับนำทรัพย์สินมีค่าจำนวนหนึ่งออกไปด้วยหลังเกิดเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้เป็นหลักฐานและเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนงานที่ “เสี่ยเล็ก” เพิ่งรับมาได้ไม่กี่ชั่วโมง ล่าสุด ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี อนุมัติออกหมายจับคนร้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ด้วยตัวเองเพื่อไปสอบถามกับพี่สาวของ “เสี่ยเล็ก”
วันนี้ (21 ก.ย.61) พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผู้บังคับการตรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี พร้อมกำลังชุดสืบสวน ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบในห้องนอนของ นายณัฐปพนวิช วงค์ธนจีรนาถ อายุ 49 ปี หรือ “เสี่ยเล็ก อรดา” นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ถูกคนร้ายชาวเมียนมา ชื่อ นายโซ อายุ 22 ปี คนงานที่เพิ่งรับมาทำงานได้เพียงวันเดียว ฆ่าชิงทรัพย์ภายในบ้านพัก และหลบหนีไปพร้อมเงินสด และทรัพย์สินของผู้ตายจำนวนหนึ่งหลังเกิดเหตุ ซึ่งล่าสุด ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี อนุมัติหมายจับ นายโซ ชาวเมืองทวาย ประเทศเมียนมา ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”
ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี ได้สอบปากคำกับพี่สาวของผู้เสียชีวิต คือ นางณัฐนิชาพร วงค์ธนจีรนาถ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่ม โดยเจ้าหน้าที่พบกรรไกรเปื้อนเลือดยาวประมาณ 7 นิ้วตกอยู่ที่ข้างเตียง เบื้องต้นเปิดเผยว่าจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ภายใน 1-2 วันนี้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สุพรรณบุรี ได้ประสานกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และ สภ. เมืองสุพรรณบุรี ท้องที่เกิดเหตุ และกำลังตำรวจสืบสวนกาญจนบุรี และ ตชด. เฝ้าตามจุดรอยต่อเขตชายแดน จ.กาญจนบุรี
พล.ต.ต.กษณะ บอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งประเด็นไปที่ “การฆ่าชิงทรัพย์” เนื่องจากมีเงินสดและทรัพย์สินบางส่วนของ “เสี่ยเล็ก” หายไปด้วย คาดว่าน่าจะเข้าไปหาญาติในเขต อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงสายวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นได้หลบหนีต่อไปโดยคาดว่าจะใช้เส้นทาง ต.ลาดหญ้า ไปออก อ.สังขละบุรีหรือเขตรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ พร้อมกับสืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ถ้าหากผู้ต้องหาหลบหนีข้ามไปประเทศเพื่อนแล้วการติดตามจับตัวก็จะยุ่งยากมากขึ้น
ขณะที่ นางณัฐนิชาพร วงค์ธนจีรนาถ อายุ 53 ปี พี่สาวของ “เสี่ยเล็ก” เปิดเผยว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องชายไม่น่ามาอายุสั้น เพราะคนงานชาวเมียนมา คนนี้เนื่องจากน้องชายเป็นคนใจดีชอบรับเลี้ยงเด็กที่ไม่มีอนาคตไม่มีงานทำเอามาดูแลหางานให้ทำให้มีรายได้เป็นการช่วยเหลือสังคมไปด้วย