คดีข่มขืนเด็ก 13 บนเกาะพะงัน ส่อเค้าวุ่น หลังเด็กหายตัวปริศนา ขณะผู้ต้องหามอบตัวแล้ว 1 คน แต่ยังปฏิเสธ ตร.เร่งล่าเพิ่มอีก 1
(6 ส.ค.) จากคดีชาย 2 คน ฉุดลากตัวเด็กหญิงวัย 13 ปี ไปข่มขืนบนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยเหยื่อให้การกับตำรวจ ว่าถูกพาไปข่มขืน 2 ครั้ง โดยครั้งหลังสุดถูกพาไปขังไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง แต่สามารถหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือได้ และจำหน้าผู้ก่อเหตุได้ดี จนตำรวจสามารถขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุไปแล้วหนึ่งคนก่อนหน้านี้
โดยเมื่อวานนี้ นายต๋อง อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ในคดีพรากผู้เยาว์ เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ได้เดินทางมายัง สภ.เกาะพะงัน พร้อมญาติ เพื่อติดต่อขอมอบตัวกับ พ.ต.ท.สมศักดิ์ หนูรอด รอง ผกก. สภ.เกาะพะงัน โดยตำรวจพานำตัวสอบปากคำ ใช้เวลาสอบปากคำนานหลายชั่วโมง ก่อนจะคุมตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดเกาะสมุย โดยผู้ต้องหาไม่ได้ใช้สิทธิในการประกันตัว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งเรือนจำเกาะสมุย ทั้งนี้ ในชั้นสอบสวน นายต๋อง ให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าว และไม่ได้ข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ตามที่ถูกกล่าวหา และไม่เคยรู้จักกับ นายเคน ที่ถูกอ้างถึง
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมชาย นพศรี ผกก.สภ.เกาะพะงัน ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เกาะพะงัน นำภาพถ่ายของนายเคน ให้ชุดสืบสวนติดตามตัวมาโดยเร็วที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ศาลาจุดชมวิวบริเวณอ่าวหินงาม หมู่ 7 ต.เกาะพะงัน ซึ่งเป็นจุดแรกที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกข่มขืน เจ้าหน้าที่พบหลักฐานต้องสงสัยเพียงชิ้นเดียว คือ เศษของซิปกางเกง จึงเก็บไว้ตรวจสอบว่าเป็นของผู้ต้องหา หรือผู้เสียหายในคดีนี้หรือไม่
นอกจากนี้ชุดสืบสวนออกหาภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่ผู้เสียหายกล่าวถึง บริเวณจุดนัดพบก่อนเกิดเหตุครั้งที่ 2 บริเวณ ต.บ้านใต้ เพื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดอีกครั้ง และประสานไปยัง รพ.เกาะพะงัน เพื่อขอตัวอย่างดีเอ็นเอ และคราบอสุจิ ที่ทางโรงพยาบาลเก็บได้จากตัวเด็กในวันที่เข้าไปรักษาตัว เพื่อส่งตรวจว่าตรงกับผู้ต้องหาหรือไม่
ขณะที่ในวันเดียวกันนี้ นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี น้าชายของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ผู้เสียหายในคดีนี้ ได้เข้าแจ้งความ ต่อ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ว่าหลานสาว คือ ด.ญ.เอ ได้หายตัวออกจากบ้านหลังจากเข้าแจ้งความ โดยพบเป็นการหายตัวไปอย่างผิดปกติ เนื่องจากในคืนหลังจากเข้าแจ้งความ ตนอยู่ที่บ้าน และยังพบ ด.ญ.เอ อยู่ที่บ้านจนเวลาประมาณ 21.00 น. ตนได้เข้านอน จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. ตนตื่นออกมาจะเข้าห้องน้ำ แต่ไม่พบ ด.ญ.เอ ในห้องแล้ว จึงออกตามหาแต่ไม่พบตัว พบในห้องยังมีโทรศัพท์มือถือของ ด.ญ.เอ และกระเป๋าที่พกติดตัวประจำ 1 ใบ ภายในมีใบนัดตรวจของ รพ.เกาะพะงัน ยาที่ แพทย์ให้มากิน และบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่จึงนำหลักฐานทั้งหมดมาตรวจสอบ โดยจะไล่ตรวจสอบจากโทรศัพท์มือถือว่า ด.ญ.เอ ติดต่อกับใครเป็นคนสุดท้าย
นายเอก กล่าวว่า โดยปกติ ด.ญ.เอ จะออกไปขับรถเที่ยวกับเพื่อนเป็นประจำทุกคืน แต่ทุกครั้งที่ออกไปจะไปไม่นาน และกลับเข้ามาบ้านทุกครั้ง แต่ครั้งนี้หายตัวไปโดยไม่ติดต่อกับใคร ตนออกไปสอบถามจากเพื่อนสนิทที่เที่ยวกันประจำทุกคืน ก็ไม่มีใครทราบว่า ด.ญ.เอ หายไปไหน และออกไปกับใคร แต่หากจะไปไหนหลายวันจะต้องนำสิ่งของจำเป็นติดตัวไปด้วย โดยเฉพาะโทรศัพท์ กับกระเป๋า
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมชาย ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เกาะพะงัน แยกชุดออกหาเบาะแสของ ด.ญ.เอ ด้วยว่าหายตัวไปไหนกับใคร โดยตั้งประเด็นสงสัยไว้ 3 ประเด็น คือ อาจจะออกไปกับคนรู้จักสนิท ทั้งเพื่อนผู้หญิง และเพื่อนชาย ส่วนอีกประเด็น เจ้าหน้าที่สงสัยว่าผู้เสียหายอาจจะเกิดอาการกลัวหลังจากเข้าแจ้งความ จึงออกไปหลบอยู่กับคนที่รู้จัก นอกจากนี้ยังไม่ตัดประเด็นว่าอาจจะถูกกลุ่มไม่หวังดีมารับตัวไปกักขังไว้ ซึ่งตำรวจจะเร่งหาเบาะแสให้ได้โดยเร็ว