นายกฯ นำ ครม. ประชุมร่วม ครม.ไม่เป็นทางการไทย-กัมพูชา โดยทั้ง2ประเทศ ร่วมกับจัดทำจับโครงการ “สองราชอาณาจักร จุดหมายหนึ่งเดียว” ขอกัมพูชาเร่งรัดการแจกหนังสือเดินทางแก่แรงงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี , พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ไปยังกรุงพนมเปญ กัมพูชา เพื่อเข้าร่วมประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3
โดยพล.ท.วีรชน สุคนธปฎิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือ ว่า นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไทยและกัมพูชา เป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิด มีพรมแดนติดกันเกือบ 800 กิโลเมตร และต่างก็เป็นสมาชิกอาเซียนซึ่งยึดมั่นในหลักการว่า เราจะพัฒนาและเข้มแข็งด้วยกัน และไม่ทิ้งประเทศใดไว้เบื้องหลัง โดยปัจจุบันนี้ไทย – กัมพูชา มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่สุดในทุกระดับและเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ทั้งระดับรัฐบาล และภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทั้งสองประเทศเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ด้านความมั่นคง ทั้งสองประเทศได้มีกรอบความร่วมมือต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) , คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ที่ถือมีความคืบหน้า ทำให้สถิติการลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณชายแดนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยไทยยินดีเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติสองฝ่าย เพื่อหารือถึงแนวทางการป้องกันในเรื่องนี้อย่างเป็นระบบต่อไป
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ยินดีต่อการลงนามในความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งเชื่อมั่นว่าช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและลดภาระของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการลงทุน ของภาคเอกชนไทยในกัมพูชามากยิ่งขึ้น โดยหวังว่ากัมพูชาจะพิจารณาอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนให้แก่นักลงทุนชาวไทย โดยเฉพาะ Smart Start Up และความเชื่อมโยงในภาพรวม ทั้งทางถนน ทางราง และทางทะเล การเชื่อมโยงเศรษฐกิจพิเศษและการเปิดจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มเติม การเชื่อมโยงระบบทางรถไฟ ขณะนี้รางรถไฟระหว่างไทยกับกัมพูชาได้เชื่อมต่อกันแล้ว หวังว่า การก่อสร้างเส้นทางรถไฟที่เหลืออยู่ดำเนินไปได้ด้วยดี เพื่อให้สามารถเดินทางโดยรถไฟในเส้นทางอรัญประเทศ – ปอยเปต – ศรีโสภณ – พระตะบอง – พนมเปญ ได้ภายในปี 2563
ส่วนการเชื่อมโยงทางบก ขอให้สองฝ่ายเร่งรัดสานต่อการจัดทำความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการขนส่งข้ามแดนเพื่อให้สองฝ่ายสามารถขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนถาวรได้ทุกจุด เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการขนส่งและการพัฒนาด้าน โลจิสติกส์ระหว่างสองประเทศ และลดภาวะความแออัดของจุดผ่านแดนถาวรอรัญประเทศ – ปอยเปตอีกด้วย
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ขณะที่ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ต้องสอดรับการการพัฒนาความเชื่อมโยงทางคมนาคมทั้งทางบก ทางราง และทางเรือ ที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ โดยขอให้พิจารณาจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวข้ามพรมแดนร่วมกัน ภายใต้โครงการ “สองราชอาณาจักร จุดหมายหนึ่งเดียว” ส่วนความร่วมมือด้านแรงงาน ขอให้กัมพูชาเร่งรัดการแจกหนังสือเดินทางแก่แรงงานกัมพูชาในไทยที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว และขอให้กัมพูชาเร่งรัดการพิสูจน์สัญชาติแรงงานที่เหลือให้แล้วเสร็จ หน่วยงานไทยพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทีมงานกัมพูชาที่จะมาแจกหนังสือเดินทางและพิสูจน์สัญชาติแรงงานที่ไทยในเดือนกันยายนนี้