เกิดเหตุระทึกกลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อสิบตำรวจตรีซิ่งรถแหกด่าน เฉี่ยวชนรถชาวบ้านเสียหาย ก่อนถูกตำรวจยิ่งสกัดใส่ยางรถ พบมียาบ้าซุกซ่อนรถกว่า 200 เม็ด ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 ได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามรถเก๋งมิตซูบิชิ สีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีนายสัจจะ จันทรทวีนุช อายุ25ปี ชาวอำเภอสารภี เป็นคนขับรถ และสิบตำรวจตรี กฤษฎาพงษ์ สารเทพ อายุ24ปี ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค5 โดยสารมาด้วย หลังก่อเหตุขับรถแหกด่านบริเวณถนนคันคลองชลประทาน ตรงข้ามกับคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จนเกือบชนเจ้าหน้าที่ ก่อนจะขับรถหลบหนีไปตามถนนวงแหวนรอบ2 หลังรับแจ้งเหตุดังกล่าว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแม่ปิง พื้นที่ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้นำกำลังเสริมช่วยสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี โดยระหว่างทางคนร้ายได้เฉี่ยวชนรถของประชาชนได้รับความเสียหายไปหลายคันด้วย กระทั่งพบรถของคนร้ายขับหลบหนีมาตามถนนมหิดลขึ้นทางยกระดับข้างแยกหนองหอย เจ้าหน้าที่สายตรวจที่ไล่ติดตามเห็นท่าไม่ดี เกรงว่าคนร้ายจะเฉี่ยวชนรถของประชาชนจนเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเติมอีก จึงได้ยิงปืนใส่ยางรถยนต์ของคนร้าย จนรถคนร้ายเสียหลักหมุนบนสะพานและเฉี่ยวชนเข้ากับขอบทาง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าปิดล้อมรถยนต์ และแจ้งให้คนร้ายที่อยู่ภายในรถออกมา
จากการตรวจค้นภายในรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบยาบ้า จำนวน 200 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ พร้อมตรวจสอบสภาพรถยนต์ของผู้ต้องหา
ด้าน พลตำรวจตรี พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนด้วยตนเอง จากการสอบปากคำ สิบตำรวจตรี กฤษฎาพงษ์ ให้การว่า นั่งมาในรถเฉยๆ ไม่ทราบเรื่องยาเสพติดมาก่อน แต่จากหลักฐานที่ชัดเจน และตามระเบียบของ ก.ตร. ที่ระบุว่าห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเด็ดขาด จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด ส่วนนายสัจจะ ผู้ต้องหาอีกราย ให้การว่า ค้ายาเสพติดตามนานแล้ว และเป็นผู้ส่งยาให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ จะต้องมีการตรวจสอบสวนภูมิหลังของตำรวจนายนี้ว่า เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้อย่างไร มีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง ขณะนี้ได้เสนอผู้บังคับบัญชาของสิบตำรวจตรี กฤษฎาพงษ์ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยให้มีผลทันที และในช่วงที่หลบหนีได้ไปเฉี่ยวชนกับรถของประชาชน จนเกิดความเสียหาย จำนวน 8 คัน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะได้แจ้งให้ผู้เสียหายมาแจ้งความ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
