เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.ท.อนุวัฒน์ ผิวบัวคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งมีเหตุพบศพผู้คุมเรือนจำอ่างทองผูกคอตาย ที่บริเวณต้นก้ามปูริมสนามฟุตบอลภายในเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ม.2 ต.ศาลาแดง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบศพ นายชาญยุทธ จันสุก อายุ 36 ปี เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฎิบัติงาน เรือนจำจังหวัดอ่างทอง ใช้เชือกไนลอนสีขาวผูกคอตัวเองเสียชีวิตอยู่กับต้นก้ามปูริมสนามฟุตบอลภายในเรือนจำ ในสภาพใส่เสื้อกีฬาสีน้ำเงิน กางเกงสีดำ สวมรองเท้าแตะ และห่างจากศพประมาณ 5 เมตร พบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายยี่ห้อยามาฮ่า สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1 กข- 3659 แพร่ จอดอยู่โดยมีกุญแจรถเสียบคารถอยู่ ที่หน้ารถมีสติกเกอร์กรมราชทัณฑ์ติดไว้ด้วย
จากการสอบสวน นายหนึ่ง (นามสมมติ) ผู้ต้องขังชั้นดีที่ปฏิบัติงานอยู่ด้านนอก ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าขณะที่ตนมาดูสวนกล้วย และรดน้ำต้นมะนาวของเรือนจำ ก็ได้สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ใกล้ ๆ กับต้นก้ามปู ตนเห็นว่าเป็นรถของ นายชาญยุทธ ผู้คุม ตนจึงได้เดินเข้าไปก็เหลือบไปเห็นเหมือน นายชาญยุทธ อยู่ใต้ต้นก้ามปู ตอนแรกตนเข้าใจว่า นายชาญยุทธ ไปยืนคุยโทรศัพท์ หรือไม่ก็นั่งตกปลา แต่พอเดินเข้าไปใกล้ก็พบว่า นายชาญยุทธ นั้นผูกคอเสียชีวิต ตนตกใจมากเลยวิ่งไปตามผู้คุมเพื่อให้แจ้ง ผบ.เรือนจำให้ทราบ
ส่วน น.ส.กนกอร วัฒนะมติพจน์ อายุ 35 ปี ภรรยาของ นายชาญยุทธ กล่าวว่า ก่อนที่จะพบศพสามีนั้น เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้มีปากเสียงและทะเลาะกับสามี โดยตนจับได้ว่าสามีนั้นกำลังนอกใจ โดยคุยไลน์กับคนอื่นแบบมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ซึ่งหลังจับได้ก็ทะเลาะกัน จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. สามีได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยก่อนออกไปก็ได้บอกว่าจะไปผูกคอตาย ซึ่งตนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เพราะตนก็เสียใจหนักเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ประกอบกันตนต้องดูแลลูกชายวัย 4 ขวบอีก และที่สำคัญเวลาทะเลาะกันสามีตนก็มักชอบพูดว่าจะไปผูกคอตาย จนกระทั่งเช้ามีคนมาบอกว่าสามีตนผูกคอตายไปแล้วจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนถึงสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป ส่วนศพนั้นญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุของการเสียชีวิตจึงส่งศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป