ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ได้มีการพบบ่อน้ำภายในวัดบ้านดอนเพกา ม.9 ต.ขามเฒ่า อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นวัดร้างมีลักษณะเป็นบ่อซีเมนต์เก่าแก่ รูปทรงคล้ายรูปหัวใจ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร ลึก 60 เซนติเมตร มีน้ำขังอยู่ประมาณครึ่งบ่อ มีสีชมพูม่วง ใส ไม่มีตะกอน และไม่มีกลิ่น ชาวบ้านเชื่อเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน หลายคนตักน้ำมาปะพรมตามใบหน้า แขนขา ปรากฏว่าน้ำเย็นเฉียบ ช่วยให้สดชื่นผ่อนคลาย ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (23 ก.พ.60) เวลา 13.10 น. นพ.กุศล เชื่อมกลาง สาธารณสุขอำเภอโนนสูง พร้อมด้วยทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ได้พากันลงพื้นที่ทำการเก็บตัวอย่างน้ำภายในบ่อน้ำเพื่อนำไปตรวจสอบหาสารปนเปื้อนภายในน้ำ , หาค่าสีภายในน้ำ รวมทั้งสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ที่อาจะปนเปื้อนอยู่กับน้ำ โดยส่งไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.นครราชสีมา
ขณะเดียวกันผู้นำชุมชนต่างช่วยกันนำเชือกปอมาทำการขึงกั้นพื้นที่บริเวณโดยรอบบ่อน้ำ พร้อมทั้งได้มีการนำป้ายเขียนข้อความ ห้ามเข้า มาติดไว้รอบบริเวณบ่อน้ำดังกล่าว อีกทั้งยังได้มีการจำกำลังอาสาสมัครในการดูแลความเรียบร้อยในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปตักน้ำในบ่อมาทำการดื่มกินและใช้ล้างทำความสะอาดร่างกาย เนื่องจากเกรงว่าประชาชนที่ดื่มน้ำในบ่อไปอาจจะเกิดการล้มป่วยและเป็นโรคผิวหนังจากสารปนเปื้อนภายในน้ำ จนกว่าผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์จะออกมาภายในสัปดาห์หน้า
นพ.กุศล เชื่อมกลาง สาธารณสุขอำเภอโนนสูง เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ ตนเองและทีมเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างน้ำภายในบ่อเพื่อนำไปตรวจและทำการวิเคราะห์ในเรื่องของเคมีและจุลวิทยา เนื่องจากสภาพของน้ำดูด้วยตาเปล่าแล้วพบว่าน้ำเป็นสีชมพูม่วง ๆ อีกทั้งก็มีสภาพที่ขุ่น ดังนั้นก็จะต้องมีการตรวจหาสารปนเปื้อนในน้ำเช่นเดียวกัน โดยตัวอย่างน้ำทั้งหมดจะทำการส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.นครราชสีมา ซึ่งคาดว่าผลการตรวจทั้งหมดจะทรายได้ภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามตนเองได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้ทราบว่าน้ำในบ่อนั้นยังไม่ควรจะดื่มกิน เนื่องจากผลการตรวจยังไม่ยืนยันว่าสีของน้ำที่เป็นสีชมพูม่วง ๆ นั้นเกิดจากธรรมชาติหรือเป็นฝีมือของมนุษย์ จึงได้ให้ผู้นำชุมชนนั้นได้มีการกั้นแนวเขตห้ามเข้าและห้ามสัมผัสน้ำในบ่อโดยเด็ดขาด