ครม.มีมติเห็นชอบให้ “ยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์” เป็นสินค้าและบริการควบคุม พร้อมตั้งอนุกรรมการฯกำหนดมาตรการดูแลที่เป็นธรรม
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบให้เพิ่มรายการสินค้าและบริการในบัญชีสินค้าควบคุมประจำปี 2562 โดยให้ยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุม ซึ่งเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จะมีการตั้งแต่อนุกรรมการฯ 1 ชุด ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐและเอกชน เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนสถานพยาบาลเอกชน และตัวแทนภาคประชาชน ทำหน้าที่กำหนดมาตรการดูแลอัตราค่ายาและเวชและเวชภัณฑ์ รวมทั้งบริการทางการแพทย์ ให้เป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และให้คณะอนุกรรมการฯเสนอมาตรการดังกล่าวให้ที่ประชุมกกร.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในส่วนของการควบคุมค่ายาและเวชและเวชภัณฑ์ และอัตราบริการทางการแพทย์นั้น จะมีไม่มีการกำหนดเพดานขั้นสูงสุดแต่อย่างใด เพราะการรักษาพยาบาลเป็นบริการที่มีความจำเพาะเจาะจง และไม่ได้เป็นสินค้าที่มีราคาเดียว ดังนั้น จึงไม่อยากให้มีการตื่นตระหนกว่าภาครัฐจะเข้าไปควบคุมราคาสูงสุด และในอดีตที่ผ่านมามีเพียงสินค้าตัวเดียวเท่านั้นที่มีการควบคุมราคาสูงสุด ซึ่งก็คือน้ำตาลทราย ขอให้สบายใจได้
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวว่า ปัจจุบัน พ.ร.บ.การรักษาพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข กำหนดแพ็คเกจของราคาแนะนำอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับรู้กันในวงกว้าง หรือรับรู้แต่ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ ส่วนค่ายานั้นขึ้นเป็นตัวสินค้าควบคุมมานานพอสมควรแล้ว เช่น ไม่ให้ขายยาเกินกว่าราคาข้างกล่อง แต่เมื่ออยู่ในโรงพยาบาลก็อาจต้องมาดูในรายละเอียดกันต่อไป แต่สิ่งเหล่านี้ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เพราะต้นทุนการประกอบการไม่เหมือนกัน