“ธนารักษ์” รับแลกคืนเหรียญเคลื่อนที่ หลังต้นทุนผลิตสูงกว่าราคาหน้าเหรียญ

“กรมธนารักษ์” เปิดบริการรับแลกคืน “เหรียญกษาปณ์” เคลื่อนที่ใน 12 จังหวัด หลังต้นทุนการผลิตแพงกว่าราคาหน้าเหรียญ ตั้งเป้าแลกคืนเหรียญ 60 ล้านเหรียญต่อปี

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการการให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ (Mobile Coin Unit)” เพื่อให้เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะกระตุ้นให้ประชาชนที่เก็บเหรียญไว้ในกระปุกออมสินหรือตามที่ต่างๆ นำออกมาแลกคืน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นการลดต้นทุนในการผลิตเหรียญกษาปณ์ และทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น

นายอำนวย กล่าวว่า กรมธนารักษ์เป็นหน่วยงานเพียงแห่งเดียวของประเทศที่มีหน้าที่ผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าในท้องตลาด มี 6 ชนิดราคา ได้แก่ เหรียญ 25 สตางค์/ 50 สตางค์/ 1 บาท/ 2 บาท/ 5 บาท และ 10 บาท ซึ่งแต่ละปีกรมธนารักษ์จำเป็นต้องผลิตเหรียญให้ได้ปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และสามารถรองรับระบบเศรษฐกิจในภาพรวมทั้งประเทศ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาโลหะที่ใช้ในการผลิตเหรียญปรับราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสูงกว่ามูลค่าราคาหน้าเหรียญ อีกทั้งปัจจุบันมีธุรกิจขายสินค้าและให้บริการผ่านเครื่องขายสินค้าหรือบริการอัตโนมัติเป็นจำนวนมาก เช่น ตู้เติมเงินโทรศัพท์ ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ เป็นต้น ประกอบกับธนาคารต่างๆมีข้อจำกัดและกำหนดปริมาณการรับแลกคืนเหรียญ เป็นต้น ทำให้กรมต้องเพิ่มช่องทางการให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่

สำหรับบริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ (Mobile Coin Unit) จะให้บริการในจังหวัดปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่มีศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ รวม 14 จังหวัด

“การออกให้บริการครั้งแรกจะให้บริการในพื้นที่จ.ปทุมธานีและพระนครศรีอยุธยา ระหว่างเดือนม.ค.-ก.พ. 2562 จากนั้นจะขยายพื้นที่ให้บริการไปจังหวัดปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง 12 จังหวัด คือ นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นครปฐม อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก และสระบุรี โดยตั้งเป้าหมายการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทุกชนิดราคา เดือนละ 5 ล้านเหรียญ หรือ 60 ล้านเหรียญต่อปี”นายอำนวยกล่าว

ทั้งนี้ กำหนดการให้บริการประจำเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2562 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. ได้แก่

1) 14-16 มกราคม 2562 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลศาลาลอย พระนครศรีอยุธยา

2) 14-15 มกราคม 2562 ที่โรงเรียนปทุมวิไล ปทุมธานี

3) 14-16 มกราคม 2562 ที่เทศบาลเมืองอโยธยา พระนครศรีอยุธยา

4) 14-16 มกราคม 2562 ที่เทศบาลตำบลอรัญญิก พระนครศรีอยุธยา

5) 21-22 มกราคม 2562 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์เอน พระนครศรีอยุธยา

6) 23-24 มกราคม 2562 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลวังแดง พระนครศรีอยุธยา

7) 25-26 มกราคม 2562 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านร่อม พระนครศรีอยุธยา

8) 27-28 มกราคม 2562 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเจ้าสนุก พระนครศรีอยุธยา

9) 29-30 มกราคม 2562 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขาก พระนครศรีอยุธยา

10) 31 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลปากท่า พระนครศรีอยุธยา

11) 4-6 กุมภาพันธ์ 2562 ที่เทศบาลเมืองอโยธยา พระนครศรีอยุธยา

12) 7-8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่เทศบาลตำบลอรัญญิก พระนครศรีอยุธยา

นายอำนวย ยังกล่าวว่า ปัจจุบันมีการใช้จ่ายเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทุกชนิดราคาประมาณปีละ 3,000 ล้านเหรียญ และมีเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทุกชนิดราคาอยู่ในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 32,000 ล้านเหรียญ มูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท ในขณะที่มีการนำเหรียญกษาปณ์มาแลกคืนเพียง 30% ลดต้นทุนในการผลิตได้ 1,400 ล้านบาท ซึ่งการให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ จะสามารถลดต้นทุนการผลิตเหรียญกษาปณ์ได้ประมาณ 86 ล้านบาท