“สมคิด” สั่งสำนักงานบีโอไอ เร่งปั๊มผลงาน หลังรัฐบาลมีเวลาทำอย่างอีก 5 เดือน ปลื้มปี 61 ยอดยื่นขอรับส่งเสริมฯพุ่ง 9.02 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้า 25% พร้อมระบุการลงทุนในอีอีซี “จุดติด” แล้ว
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการมอบนโยบายการทำงานให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยระบุว่า สำนักงานบีโอไอได้รายงานยอดยื่นคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 2561 โดยมีโครงการที่ยื่นคำขอรับส่งเสริมฯ 1,626 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 901,770 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 720,000 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25%
โดยเฉพาะยอดยื่นขอรับส่งเสริมฯในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 3 จังหวัด มียอดยื่นคำขอรับส่งเสริมคิดเป็น 76% ของยอดยื่นฯทั้งหมด คือ มีโครงการยื่นคำขอรับการส่งเสริมฯ 422 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 683,910 ล้านบาท แบ่งเป็น ชลบุรี 193 โครงการ เงินลงทุน 576,910 ล้านบาท ระยอง 156 โครงการ เงินลงทุน 58,700 ล้านบาท และฉะเชิงเทรา 73 โครงการ เงินลงทุน 48,300 ล้าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นการลงทุนในอีอีซีจุดติดแล้ว
“บีโอไปสรุปผลการทำงานในปี 2561 ปรากฎว่าตัวเลขเป็นที่น่ายินดี คือ ยอดยื่นขอรับการส่งเสริมฯ เกินเป้า โดยเฉพาะการยื่นขอรับการส่งเสริมฯในพื้นที่อีอีซี ซึ่งมีสัดส่วน 76% ของยอดยื่นฯทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า อีอีซีจุดติดแล้ว”นายสมคิดกล่าว
สำหรับปี 2562 สำนักงานบีโอไอตั้งเป้ายอดยื่นขอส่งเสริมฯ มูลค่า 7.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายใกล้เคียงกับเป้าหมายในปี 2561 แต่เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน จึงขอให้เน้นเรื่องคุณภาพของนักลงทุนและการลงทุนที่เกิดขึ้น
นายสมคิด ย้ำว่า รัฐบาลชุดนี้มีเวลาทำงานอย่างน้อย 5 เดือน หรือต้องอยู่ไปจนถึงเดือนพ.ค.นี้ ดังนั้น ภายใต้ภาวะการที่เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน ทางบีโอไอต้องทำงานอย่างแข็งขันในการดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก และตนเองเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะดี
“รัฐบาลนี้จะต้องอยู่ไปจนถึงเดือนพ.ค. พูดง่ายๆ คือ มีเวลาทำงานอย่างน้อย 5 เดือนเต็มๆ ภายใต้ภาวะการที่โลกมีความไม่แน่นอน ซึ่งผมเคยพูดไปแล้วว่า ผมมั่นใจว่าครึ่งหลังของปีนี้จะดี แต่ว่าครึ่งปีแรกต้องระมัดระวัง ต้องดูแลประคับประคองกันไป โดยได้บอกกับบีโอไอไปว่าครึ่งปีนี้ต้องแอคทีฟ เพราะโลกที่มีความไม่นอนสูง การแข่งขันมันสูงมาก ต้องดึงดูดนักลงทุน เพราะนักลงทุนมีที่มาที่ไปเยอะ ถ้าเราเฉย รอเลือกตั้งอย่างเดียว เราจะแพ้คนอื่น”นายสมคิดกล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้สำนักงานบีโอไอรื้อฟื้นโครงการบ้านบีโอไอ หรือการส่งเสริมให้มีการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยสำนักงานบีโอไอต้องปรับหลักเกณฑ์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สามารถลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาถูกได้ แต่ทั้งนี้ ต้องมีเงื่อนไขและมาตรฐานที่ควบคุมคุณภาพไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภคด้วย
นอกจากนี้ ขอให้สำนักงานบีโอไอจัดเตรียมมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่สร้างความเท่าเทียม ลดความเลื่อมล้ำ สร้างความเจริญและพัฒนาท้องถิ่นให้มากขึ้น รวมทั้งผลักดันการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจในภาคใต้จากฝั่งอันดามันสู่อ่าวไทยในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ ในจ.ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานีและระนอง ตลอดจนเดินหน้าผลักดันโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปีนี้