3 ก.พ. 62 – นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กพรรค รปช.ว่า
สวัสดีครับพี่น้องมวลมหาประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน…
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาศาลฎีกา ได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำคุกคนละ 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ทั้ง 6 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และหนึ่งในนั้นก็คือ คุณสุริยะใส กตะศิลา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออันดับ7 ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยด้วย ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ คุณสุริยะใส จะหมดโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ตัวแทนพี่น้องประชาชนในสภา รวมทั้งจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองทันทีนานถึง10ปี
.
ผมยอมรับตรงๆครับว่า มีความเสียดายคนหนุ่มอนาคตไกลคนนี้ เพราะจากการที่ได้รู้จักและสัมผัสการทำงาน ผมเห็นว่าคุณสุริยะใสเป็นลูกอีสานที่มีเลือดนักสู้อยู่เต็มเปี่ยม นับตั้งแต่ก้าวเข้ามาเป็นเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนนท. ก่อนผันตัวเองมาเป็น NGO จนก้าวมาเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทักษิณอย่างไม่ลดละ โดยยึดหลักความถูกต้องชอบธรรมบนผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาโดยตลอด
.
ที่น่าสนใจคือหัวข้อดุษฎีนิพนธ์ ในช่วงที่ทำปริญญาเอกของคุณสุริยะใส ได้เลือกเรื่อง “อุดมการณ์ทางการเมืองของมวลมหาประชาชน ในวิกฤติประชาธิปไตย” เมื่ออ่านแล้วพบว่ามีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อชาติบ้านเมือง จนทราบว่าได้เข้ามาสอนหนังสือจนมีลูกศิษย์ลูกหาทั่วบ้านทั่วเมือง เนื่องจากเป็นคนที่พูดจาปราศรัยมีความเป็นเหตุเป็นผลน่าฟัง มีจุดยืนชัดเจน และโดยส่วนตัวก็เป็นคนที่สุภาพเรียบร้อยนอบน้อมถ่อมตน น่ารักมากครับ
.
จนวันหนึ่งผมได้มาพบว่าคุณสุริยะใส เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ที่ก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทยด้วย ทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่าหลักการที่จะยืนเคียงข้างประชาชน ของพรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชน จะมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ทั้งนี้ทราบว่าทางพรรคได้เร่งเข้าไปดูแลครอบครัวของคุณสุริยะใสเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทันที
.
การเลือกที่จะต่อสู้คดีจนถึงที่สุด โดยไม่คิดจะหลบหนีเหมือนนักการเมืองบางคน
.
ผมจึงขอยกเอาคำพูดสุดท้ายของคุณสุริยะใสที่พูดในเช้าวันนี้ว่า
“ตำแหน่งจะอยู่กับเราไม่นาน แต่ตำนานจะคงอยู่กับเราตลอดไป”
.
ซึ่งผมภูมิใจในตัวชายหนุ่มนักสู้คนนี้มาก
.
ขอน้อมคารวะด้วยใจจริง
.
สุเทพ เทือกสุบรรณ