เจ้าของบาร์เกาะสมุยพบก้อนคล้าย “อ้วกวาฬ” หรืออำพันทะเลของหายากราคาแพงประสานผู้เชียวชาญพิสูจน์แท้หรือไม่

วันที่ 1 มี.ค.62 จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีหนุ่มเจ้าบาร์บนเกาะสมุย เจอก้อนประหลาดถูกคลื่นซัดมาติดอยู่บนก้อนหินริมชายหาด ซึ่งได้นำมาเก็บไว้นานนับปีก่อนนำมาให้เพื่อนดูจนเพื่อนทักว่าอาจะเป็น “อ้วกวาฬ” ซึ่งเป็นของหายากและมีราคาแพง

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายบุญยศ ตาละอุปะระ อายุ 44 ปี เจ้าของร้านเบริลบาร์ ตั้งอยู่ริมชายหาดแหลมกากี อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยนายบุญยศ เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินเก็บเศษไม้ เศษขวดพลาสติกบริเวณริมชายหาดแหลมกากี ก็พบกับก้อนประหลาดก้อนหนึ่งถูกคลื่นซัดมาเกยอยู่บนก่อนหิน หลังผ่านช่วงมรสุมมาได้ไม่นาน

โดยก้อนประหลาดที่พบครั้งแรกจะมีสีเหลืองเข้มน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นก้อนเทียนที่ผ่านการหลอมมาจนเป็นก้อน แต่เมื่อเอานิ้วไปกดดูมีความนุ่มไม่เหมือนก้อนเทียน ตนเอง ก็รู้เอะใจ เนื่องจากพี่สาวที่อยู่ประเทศออสเตรีย เคยเล่าให้ฟังถึงเรื่อง “อ้วกวาฬ”ซึ่งอาจจะมีโอกาสพบได้ตามริมชายหาดหลังถูกคลื่นซัดเข้า แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะใช่หรือไม่แต่ก็เก็บไว้ที่บ้านเป็นเวลา นาน 1 ปี จนวันหนึ่งได้นำก้อนดังกล่าวมาให้เพื่อนดู เพื่อนก็ทักว่านี้อาจะเป็น “อ้วกวาฬ” เป็นของหายาก และมีราคาแพง ซึ่งหากเป็น “อ้วกวาฬ” ของจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องโชคดี

นอกจากนี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอ่าวไทนตอนกลาง จ.ชุมพร ได้โทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียด และลักษณะของก้อนที่พบ ขณะเดียวกัน ตน ได้อยุ่ระหว่างติดต่อประสานงานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ พักอยู่ที่ จ.สงขลา ให้มาตรวจสอบ ว่าก้อนที่พบนี้จะเป็น “อ้วกวาฬ”ของจริงหรือไม่ และอยากฝากไปถึงผู้ที่มีความและเชียวเรื่อง
“อ้วกวาฬ”ให้ช่วยมาตรวจสอบด้วย

จากข้อมูลพบว่า ฮ้วกวาฬ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า อัมพันทะเล ซึ่งวาฬได้กินสัตว์ทะเล เช่น ปลาหมึก ที่ย่อยสลายยากที่ตกค้างอยู่ในท้อง “วาฬหัวทุย” แล้วเกินการสะสมของอาหารที่ย่อยสลายยากเป็นระยะเวลานานก่อนที่ “วาฬหัวทุย” จะอ้วกออกมา ซึ่งในต่างประเทศจะนิยมนำ
“อ้วกวาฬ”เป็นส่วนผสมหัวเชื้อน้ำหอมหรือเครื่องสัมอาง จึงเป็นของหายากมีราคาแพง