แม่เหยื่อเสาไฟล้มทับถ.เพลินจิต ร้องคดีไม่คืบ

แม่เหยื่อเสาไฟล้มทับถ.เพลินจิต เข้าร้องขอความเป็นธรรม หลังคดีไม่คืบหน้า

นางณัฐพิมล สมเจษ มารดาของนางสาวณัชชาพัชร์ สมเจษ ผู้เสียชีวิตจากเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ภายในพื้นที่อาคารอัลม่าลิ้งค์ (Alma Link Building) ถนนเพลินจิต ล้มทับสายสื่อสารและเหนี่ยวรั้งดึงเสาหักเสียหาย จำนวน 7 ต้น ทำให้เสาสายสื่อสารล้มทับรถที่สัญจรไปมาบนถนนดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินของราชการได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

นางณัฐพิมล เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ลูกสาวตนเองเสียชีวิตและทำบุญครบ 100 วันแล้ว ทางเจ้าของต้นไม้และทนายความได้ติดต่อขอเจรจาค่าเสียหายแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จนกระทั่งคดีผ่านไปเป็นเวลากว่า 6 เดือน ทราบว่ามีการเรียกสอบพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุไปแล้วประมาณ 3-4 ปาก และมีการตั้งข้อหากับคนดูแลต้นไม้ในข้อหากระทำการโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และมีการออกหมายเรียกให้เจ้าของต้นเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 2-3 ครั้ง แต่ทราบจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่าเจ้าของต้นไม้ก็บ่ายเบี่ยงไม่มาให้ปากคำตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ตนเองมองว่าคดีดังกล่าวไม่มีความซับซ้อนน่าจะใช้เวลาไม่นานก็สามารถออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ แต่จนถึงปัจจุบันคดีก็เงียบหายไป ส่วนเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายว่าตัวเงินไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ความรับผิดชอบต่อการสูญเสียของลูกสาวเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าของต้นไม้ต้นดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนายวิเชียร ชุบไธสง ทนายความ เปิดเผยว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดดำเนินการในคดีดังกล่าว ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าที่มารดาของผู้เสียชีวิตต้องการเรียกร้องไห้ทำคดีอาญาให้เสร็จสิ้นเพื่อเรียกร้องทางแพ่งนั้น ตามกฎหมายถึงแม้ว่าคดีอาญาจะยังไม่เสร็จสิ้นก็สามารถเรียกร้องทางแพ่งได้ แต่เจ้าของต้นไม้ต้นดังกล่าวก็เงียบหายไปไม่ติดต่อเข้าเจรจาทดแทนความสูญเสียที่เกิดขึ้น