เพจ เพลินเพลิน By แม่บ้านคันไซ เผยเรื่องราวที่ตนเองไปเลือกซื้อปลาดิบเพื่อมาทำอาหารแต่กลับเจอแต่ปลาที่มีพยาธิ จึงเล่าประสบการณ์และวิธีป้องกันเบื้องต้น
“เรื่องมีอยู่ว่า 2 วันก่อนแอดไปหาซื้อปลาในซุปเปอร์แถวบ้านแล้วพบเห็นพยาธิ หรือ หนอนในปลา ก็เลยตัดใจไม่ซื้อ เพราะคิดว่าแพ็คอื่นๆที่ไม่เห็นแต่มันตัดจากปลาตัวเดียวกันก็อาจจะมีซ่อนอยู่
เมื่อวานแอดไปซุปเปอร์อีกแห่งที่อยู่ถัดไป …. เจอพยาธิที่ปลาเหมือนเดิม เลยเดินไปส่วนของร้านปลาสดที่มาเช่าพื้นที่ในซุปเปอร์ขาย ด้อมๆมองๆเลือกอยู่นาน มั่นใจว่าไม่มี เลยตัดสินใจซื้อมา
ตอนจ่ายเงิน แอดถามเจ๊คนขายว่า จะมีพยาธิไหมน๊า เจ๊แกตอบว่า ก็อาจจะมี เพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติ เพียงแต่เวลาที่เค้าแล่ปลาเป็นชิ้นๆแล้วเจอ คนแล่ก็จะดึงพยาธิทิ้ง แต่บางทีถ้าชิ้นปลานั้นหนาไปหรือซ่อนอยู่ด้านในไม่โผล่ออกมาก็ไม่เห็น
แอดเลยถามไปว่า แล้วถ้าเราเจอหลังซื้อไปแล้วต้องทำไง ทิ้งปลาชิ้นนั้นเลยไหม เจ๊แกว่า ก็ดึงพยาธิทิ้งไป แต่ถ้าเอาไปทำให้สุกถึงซ่อนอยู่ด้านในก็ไม่มีปัญหา”
พยาธิชนิดนี้ คนญี่ปุ่นเรียกว่า Anisakisu (アニサキス) ซึ่งจะพบมากในปลาแซลม่อน ซาบะ บุรี(ปลาหางเหลือง) ปลาทารา (ปลาหิมะ) ปลาทูญี่ปุ่น ปลาหมึก เป็นต้น ลักษณะของพยาธิชนิดนี้จะคล้ายเส้นด้ายสีขาวอ้วนๆ ลำตัวกว้างประมาณ 0.5-1mm. ยาว 2-3 cm.
จริงๆแล้วพยาธิพวกนี้จะอยู่ตามอวัยวะภายในของปลา แต่บางครั้งพวกมันก็จะชอนไชหลุดมาอยู่ตามกล้ามเนื้อปลา ทำให้เราๆมีโอกาสทานปลาที่มีพยาธิเข้าไปได้
โดยปกติพยาธิพวกนี้จะตายที่อุณภูมิติดลบ20องศาและต้องแช่ไว้ไม่ต่ำกว่า24ชม. หรือปรุงสุก ด้วยอุณภูมิ70องศา 1นาทีขึ้นไป
ถ้าเราเผลอทานปลาดิบ ซาชิมิ ซูชิ ที่มีพยาธิที่ยังไม่ตายเข้าไป เราก็จะมีอาการปวดท้องรุนแรง เนื่องจากเจ้าพยาธิพวกนี้มันพยายามชอนไชเจาะกระเพาะเรา เนื่องจากยังไม่มียารักษา วิธีการรักษาคือจะต้องไปรพ.ให้คุณหมอส่องกล้องใช้คีมคีบพยาธิออกมาค่ะ
แต่ละปีมีคนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยต้องไปพบหมอเพื่อให้คีบเอาเจ้าพยาธินี้ออกค่ะ อย่างปีที่แล้วพบว่ามีถึง242 คนเลย
ซึ่งทางเพจ Drama-addict ออกมาเตือนเกี่ยวกับการกินปลาดิบตามร้านอาหารต่างๆ ควรเลือกร้านให้ดีเป็นมืออาชีพเพราะพ่อครัวที่มีประสบการณ์แล้วจะรู้วิธีฆ่าและนำพยาธิพวกนี้ออกได้
