อุทาหรณ์สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หลังเกิดกรณีนักท่องเที่ยว 2 ราย เข้าไปใกล้ช้างป่าเพื่อถ่ายรูปเซลฟี่ก่อนเจอช้างไล่รีบเผ่นหนีตายน่าหวาดเสียว
21 ก.ย. 60 เฟซบุ๊กแฟนเพจ Social Hunter แชร์ภาพจากตากล้องรายหนึ่งขณะช้างป่าวิ่งไล่นักวิ่ง 2 ราย พร้อมระบุเหตุการณ์ก่อนหน้าว่านักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้ช้างเพื่อถ่ายเซลฟี่ “เมื่อวันที่สิบสามกันยายน 2560 ผมได้ไปที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขึ้นทางปราจีนบุรีถึงที่ด่านประมาณสี่โมงเย็น เมื่อผ่านด่านไปสักระยะประมาณกิโลกว่าๆเห็นมีนักวิ่งสองคนกำลังวิ่งขึ้นไปตามถนน พอเลยสะพานแรกไปก็เห็นช้างพลายตัวหนึ่ง(เบี่ยงเล็ก)กำลังเดินหากินอยู่ข้างถนน ผมได้จอดรถและถ่ายรูปเขาอยู่สักสิบกว่าภาพ มีรถตามหลังมา ผมโบกให้เขาไปแต่ไม่มีใครกล้าขึ้นไป ผมจึงขับนำไปเห็นช้างหากินไม่มีปฏิกริยาใดๆ พวกเขาก็ขับผ่านไปหลายคัน ผมขับผ่านไปจอดแต่ไม่ดับเครื่อง(พร้อมที่จะไป) โบกรถที่สวนลงมาผ่านไปสองสามคัน ประมาณกม.14 ช้างยืนกินเถาวัลย์อยู่ริมถนน เห็นนักวิ่งสองคนวิ่งเข้ามาใกล้ช้างพอประมาณแล้วพวกเขาก็ถ่ายรูป(เซลฟี่)กับช้าง แล้วเขาก็เดินเข้ามาใกล้ช้างอีก ผมกลับเข้ารถเพื่อเปลี่ยนกล้อง เอาเลนส์ 100-400 มาเปลี่ยน(เดิม 70-200 mm )พอหันกลับมาที่ช้างเห็นช้างวิ่งเข้าชาร์ตนักวิ่งสองคนทันที ไม่มีเสียงร้องจากช้าง แต่ผม ตะโกนสุดเสียง ระวัง ! ช้าง นักวิ่งสองคน วิ่ง(เพื่อชีวิต) ช้างวิ่งไล่ ส่วนผมยกกล้องกดชัตเตอร์ในวินาทีนั้น ได้ภาพมา 35 ภาพ น่าจะสามวินาที พอนักวิ่งไกลออกไป ช้างหยุดเดิน พอนักวิ่งหยุดช้างไล่ต่อคราวนี้ร้องคำรามเสียงดังมากวิ่งไล่ไปด้วย เป็นอย่างนี้อยู่สามครั้งจนนักวิ่งไปไกล ช้างจึงมายืนขวางถนน ไม่ยอมให้ใครผ่านจนเจ้าหน้าที่มาไล่ออกจากเส้นทาง”
https://www.facebook.com/socialhunter1/posts/322993081501520
ทั้งนี้พฤติกรรมดังกล่าวถือว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งเพราะถือเป็นการรบกวนช้างที่อาจเกิดอันตรายแก่ตัวนักท่องเที่ยว และรถยนต์ที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว คำแนะนำสำหรับเหตุการณ์ลักษณะนี้เนื่องจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีความอุดมสมบูรณ์ของฝืนป่าทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเจอช้างออกมาหากินตามถนนได้ ทั้งนี้หากเจอช้างป่าให้หยุดรถห่างจากช้างอย่างน้อย 300 เมตร เพื่อให้ช้างผ่านไปก่อนแล้วค่อยๆเคลื่อนรถผ่านไป ควรติดเครื่องรถยนต์ไว้เสมอเพื่อให้สามารถเคลื่อนรถหนีได้ทันท่วงที และที่สำคัญไม่ควรลงจากรถหรือเข้าไปใกล้ช้างป่าเป็นอันขาด