คดีการเสียชีวิตเปลือยปริศนาภายในรถยนต์ของหญิงวัย 63 ปี ตำรวจตั้งปมสาเหตุไว้ 2 ประเด็น คือการฆ่าตัวตายและถูกฆาตกรรม แต่จากวัตถุพยานที่พบและการสืบสวนทำให้เจ้าหน้าที่คาดว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการฆ่าตัวตาย
ขวดยาฆ่าหญ้าที่พบ ภายในรถยนต์ ฮอนด้า สีบรอนซ์ ทะเบียน กจ 1355 คือหลักฐานสำคัญ อีกชิ้นหนึ่งที่ถูกนำส่งไปตรวจดีเอ็นเอ และตรวจหาลายนิ้วมือบนขวด เพื่อหาเบาะแสและคลี่คลายปมการเสียชีวิตปริศนาของ นางทวีทรัพย์ สงค์ประพันธ์ เจ้าของร้านเสริมสวย วัย 62 ปี ที่เสียชีวิตสภาพเปลือยกาย อยู่ภายในรถยนต์ คันดังกล่าว ก่อนจะถุกพบศพเมื่อวันจันที่ 17 ก.ค.
ภาพถ่ายที่ปรากฎภาพรถยนต์คันเกิดเหตุ เข้ามาจอดอยุ่ในภายในบริเวณลานจอดรถ หน้าตลาด ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 14 ก.ค. โดยไม่มีใครเอะใจว่าภายในรถจะมีร่างของ นางทวีทรัพย์ วงประพันธ์ เสียชีวิตอยู่
ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงกับร้านเสริมสวยของผู้ตาย บอกว่าปกติจุดที่จอดรถ ไม่ใช่ที่จอดรถประจำของผู้ตาย หลังทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตยอมรับว่ารู้สึกตกใจ เพราะผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดี
อย่างไรก็ตาม บ้านของผู้ตายซึ่งถูกปิดเงียบ เพื่อนบ้านระบุว่าครอบครัวยังอยู่ในอาการเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบว่า ครั้งสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นผู้ตาย คือ คืนวันศุกร์ที่ 14 ก.ค. ผู้ตายกลับเข้าบ้าน และออกจากบ้าน เวลา 21.00 น. ก่อนจะขาดการติดต่อไป โดยกล้องวงจรปิดบริเวณตลาด จับภาพรถของผู้ตายขับเข้าไปเมื่อเวลา 03.00 น. ของคืนวันเสาร์ที่ 15 ก.ค. แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีบุคคลใดลงจากรถหรือไม่ เนื่องจากที่จอดรถเป็นมุมอับ ซึ่งตำรวจเร่งแกะรอยวงจรปิดเพิ่มเติม
แม้ในเบื้องต้นตำรวจจะตั้งปมสาเหตุการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าตัวตาย และถูกฆาตกรรม ชุดสืบสวนกระจายกำลังลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสและพยานหลักฐานในการคลี่คลายปมการเสียชีวิตคดีนี้ นอกจากขวดยาฆ่าหญ้า ซึ่งถูกพบภายในรถ เจ้าหน้าที่พบเสื้อผ้าของผู้ตายอยู่ภายในรถเช่นกัน ขณะที่ทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเงิน ผู้ตายไม่ได้มีการนำติดตัวออกจากบ้านไป โดยเจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลว่าผู้ตายได้มีการโพสข้อความลักษณะตัดพ้อเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว
แม้เจ้าหน้าที่จะยอมรับว่าขณะนี้ให้น้ำหนักสาเหตุการเสียชีวิต ไปที่ปมจากการฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังคงไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้ง โดยจะต้องรอผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ และผลการตรวจดีเอ็นเอจากวัตถุพยานที่พบ เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตอย่างแท้จริง คาดว่าจะทราบผลการตรวจวัตถุพยานและผลการชันสูตรพลิกศพภายในสัปดาห์นี้