กบง.มีมติเพิ่มอัตราเงินนำส่ง “เบนซิน-โซฮอล์-ดีเซล” ลิตรละ 50 สตางค์ ตุนเงินกองทุนน้ำมันรับมือผันผวน หลังราคาน้ำมันตลาดโลกลดต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน มีมติเห็นชอบเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนของน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ 91 และดีเซล อีก 0.50 บาท/ลิตร และลดอัตราเงินชดเชยแก๊สโซฮอล์ อี20 แก๊สโซฮอล์ อี85 และน้ำมันไบโอดีเซล บี20 ลง 0.50 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ การเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯ และลดอัตราเงินชดเชยดังกล่าว เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงต่อเนื่อง และจะทำให้กองทุนน้ำมันฯมีรายรับประมาณ 100 ล้านบาท/วัน โดยล่าสุด (11 พ.ย.) กองทุนน้ำมันฯ เป็นบวกสุทธิ 23,401 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน บวกสุทธิ 28,428 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 5,027 ล้านบาท
รายงานข่าวระบุว่า อัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯในอัตราใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (16 พ.ย.) ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันฯมีเสถียรภาพและเข้มแข็งพอที่จะรองรับความผันผวนของตลาดน้ำมันในอนาคต ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยืนยันว่า การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ จะไม่กระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ขณะเดียวกัน จะกำกับดูแลค่าการตลาดของสถานีบริการน้ำมันให้อยู่ในระดับเหมาะสม
สำหรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนฯและอัตราเงินชดเชย เป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน นำส่ง 8.58 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 นำส่ง 2.62 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 นำส่ง 2.62 บาท/ลิตร ดีเซล นำส่ง 0.70 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ อี20 ชดเชย 0.28 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ อี85 ชดเชย 5.88 บาท/ลิตร และน้ำมันไบโอดีเซล บี20 ชดเชย 2 บาท/ลิตร