เปิดใจจากเด็กน้อยก้มกราบพระบาท “ในหลวง ร.9” ในวันนั้น เติบโตเป็นข้าราชการ ที่ขอจงรักภักดีสู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร “ในหลวง ร.10”
หลายๆคนคงเคยเห็นภาพเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง ก้มลงกราบพระบาทของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
เมื่อครั้งพระองค์เสด็จเยี่ยมราษฎรในจังหวัดปัตตานี เมื่อปีพุทธศักราช 2516 และกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่เราคุ้นตามาถึงทุกวันนี้ เด็กในภาพวันนั้นกลายเป็นข้าราชการใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่จะขอสัญญาว่าจะทำความดีถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดไป
หลายคนเคยสงสัยว่าเด็กน้อยในภาพที่ก้มกราบพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันนั้นคือใคร วันนี้ทีมข่าวไบรท์ทูเดย์จะนำทุกท่านไปค้นหาคำตอบกันอีกครั้งถึงที่มาของภาพประวัติศาสตร์นี้ เด็กน้อยคนนั้นคือ นายพยุงศักดิ์ กาฬมิค ปัจจุบันอายุ 50 ปี ข้าราชการใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพภาคใต้ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพภาคใต้ และได้รับมอบหมายทำหน้าที่ ยุติธรรมจังหวัดสงขลา อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
นายพยุงศักดิ์ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวไบรท์ทูเดย์ว่า “การปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการในวันนี้ ทำเพื่อสนองเบื้องพระยุคลบาท ปฏิบัติหน้าที่ที่สำงานงานคุ้มครองสิทธิ ภาค 4 จึงถือเป็นความโชคดีของชีวิตที่ได้ทำงานเพื่อแผ่นดิน ตอบแทนพระคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อเนื่องจนถึงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยงานที่ทำอยู่เป็นการช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงความเป็นธรรมตามสิทธิอันชอบธรรมของประชาชน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อสังคมส่วนรวมและประเทศชาติ
นายพยุงศักดิ์ ระบุว่าการ ได้ก้มกราบพระบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันนั้น ถือได้ว่าเป็นมงคลสูงสุดต่อตนเองและครอบครัว และทุกครั้งที่ได้เห็นภาพประวัติศาสตร์นี้ก็เหมือนเป็นการสัญญากับพระองค์ท่านว่าข้าพเจ้าจะถวายความจงรักภักดีและจะทำความดีถวายพระองค์ตลอดไป
ไม่เพียงเท่านั้นนายพยุงศักดิ์ เปิดเผยกับทีมข่าวไบรท์ทูเดย์เพิ่มเติมว่าได้เข้าร่วมเป็นจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. โดยได้สมัครและได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงยุติธรรมโดยผ่านการคัดเลือก จึงได้เข้ารับการฝึกหลักสูตรพื้นฐาน รุ่น 1/62 ระยะเวลาฝึกอบรม 15 วัน นับเป็นเกียรติและเป็นมงคลยิ่งของชีวิตอีกครั้ง
ทั้งนี้นายพยุงศักดิ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงความรู้สึกที่มีต่อพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 คือการตั้งมั่นที่จะถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีแก่พสกนิกรชาวไทย
โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระองค์ท่านได้ทรงติดตามในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการทรงงานอย่างต่อเนื่อง พระองค์ได้ทรงแบ่งเบาพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยพระราชประสงค์ที่จะให้พสกนิกรชาวไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ดังจะเห็นได้จากพระปฐมบรมราชโองการ”เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้คนในชาติมีความรู้รักสามัคคี
เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม โดยการทำความดีด้วยหัวใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ จึงกลายเป็นที่มาของจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจทั้งแผ่นดิน และจะขอจงรักภักดีสู่ใต้พระบรมโพธิสมภารของในหลวงรัชกาลที่ 10 สืบไป